สุทธิคุณ กองทอง หนุ่ม

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ภรรยารายล่าสุด เสธ.แดง ลัดดาวัลย์ พลฤทธิ์ รักที่เกิดจากความสงสาร & ขอพื้นที่ให้ลูกยืน





เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง


ภาพ : ชวรินทร์ เผงสวัสดิ์


แต่งหน้า : บัณฑิต บุญมี

สถานที่ : โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ กรุงเทพฯ

ภรรยารายล่าสุด เสธ.แดง

ลัดดาวัลย์ พลฤทธิ์

รักที่เกิดจากความสงสาร & ขอพื้นที่ให้ลูกยืน



หลังจากแม่-ลูกคู่นี้ ลัดดาวัลย์ พลฤทธิ์ และ น้องแดงน้อย-ด.ช.นักรบ สวัสดิผล

เปิดตัวในฐานะภรรยาคนล่าและลูกชายคนเล็กของ…เสธ.แดง

อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลก ที่พ่อม่ายหนุ่มใหญ่ จะมีรักใหม่กับหญิงสาวที่วัยห่างกันกว่า 20 ปี

แต่น่าแปลกที่เธอยินยอมอยู่ใน “เงามืด” มานาน

จะห่วงภาพ “ฮีโร่” ในสายตาปวงชน หรือเป็นเพราะรักเกินกว่าจะทำร้าย “ลูกสาวคนเดียว” ก็ตามแต่

วันนี้…ทุกคน ต่างไม่มี “เสธ.แดง” ในฐานะพ่อและสามีอีกต่อไป

หญิงสาวเค้าหน้าหวานคม ยิ้มอ่อนโยน ทอดสายตาดูเด็กน้อยหน้าตาน่าเอ็นดู ที่กำลังเล่นสนุกอย่างเพลิดเพลิน

ก่อนหน้านี้เธอแทบไม่เคยเป็นที่รู้จักมาก่อน จนวันพระราชทานเพลิงศพนายพลคนดัง เสธ.แดง-พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เธอก็เป็นข่าวในฐานะภรรยาคนล่าสุด?? ของ เสธ.แดง ที่มาพร้อมกับ “ลูกชาย” ของ เสธ.แดง

ทั้งที่ก่อนหน้านั้น การปรากฏตัวของ น้องเก๋-กิตติยา สวัสดิผล ลูกสาวคนโตของ เสธ.แดง ที่น้อยคนจะรู้จัก สร้างความแปลกใจมาแล้วหนหนึ่ง นอกเหนือจาก น้องเดียร์-ขัตติยา สวัสดิผล ซึ่งเคยรับรู้กันในฐานะ “ลูกสาวคนเดียว” ของพ่อ เมื่อ ลัดดาวัลย์ พลฤทธิ์ และลูกชาย น้องแดงน้อย-นักรบ สวัสดิผล ปรากฏตัวอีกหน จึงเป็นข่าวที่มีทั้งผู้ติดตามและหวังให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีสำหรับทุกฝ่าย

##จากเกลียดเป็นสงสาร เมื่อรู้จัก

“ดา”-ลัดดาวัลย์ พลฤทธิ์ หญิงสาววัย 33 ปี พื้นเพเป็นชาวปักษ์ใต้ จ.นครศรีธรรมราช เคยเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลิมิเร่อร์และฐานเศรษฐกิจ ก่อนลาออกไปใช้ชีวิตครอบครัวกับนายพลคนดัง พ่อม่ายหนุ่มใหญ่ ที่เพิ่งล่วงลับจากการถูกลอบยิงจากระยะไกล ในเหตุการณ์ผู้ชุมนุมราชประสงค์ เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

เธอมีพี่น้องด้วยกัน 7 คน เธอเองเป็นลูกคนที่ 6 จบปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สนใจเรื่องการเมืองเป็นทุนอยู่แล้ว จึงยึดอาชีพการเป็นผู้สื่อข่าวมาตั้งแต่ต้น รู้จักกับ เสธ.แดง เมื่อปี 2545 ขณะที่เป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลิมิเร่อร์ โดยได้รับมอบหมายให้ติดตามทำข่าวของ เสธ.แดง หลังจากชะตาต้องกัน จนมีการแลกเบอร์โทรศัพท์และติดต่อกันเรื่อยมา แม้ชีวิตวัยสาว ที่หน้าตาหวานคม จะมีหลายคนเสนอตัวมาดูแลหัวใจ แต่เธอยอมพ่ายแก่พ่อม่ายหนุ่มใหญ่ ซึ่งเธอรู้ว่ามีลูกติด ส่วนภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว

ไม่น่ามีอะไรผิด ความสัมพันธ์ลึกซึ้งจึงเริ่มขึ้น

“แรกๆ เกลียดเขาด้วยซ้ำ เพราะพี่แดงดูเหมือนเป็นมาเฟีย ในใจมีคำถามว่า ทำไมถึงได้ใหญ่โตคับบ้านคับเมืองแบบนี้ แต่พอได้คุยกันแล้ว เราก็ได้เห็นภาพด้านบวก ก็เลยเกิดความประทับใจ

“พี่แดงจะให้เกียรติภรรยาของเขา (น.อ.พิเศษ จันทรา สวัสดิผล มารดาของน้องเดียร์) ตลอดว่า เป็นภรรยาที่ดีมาก แรกๆ ก็คุยเรื่องข่าว แต่หลังๆ พี่แดงกลับถามเรื่องส่วนตัว เรารู้จากลูกน้องเขาว่าเป็นพ่อม่ายลูกหนึ่ง ก็เลยคบกันมาเรื่อยๆ

“แม้ดูภายนอกพี่แดงเป็นคนแข็งๆ แต่ภายในเป็นคนอบอุ่น เลยถูกชะตา หลังจากที่รู้จักกันได้ประมาณ 1 ปี จึงตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ด้วยกันตั้งแต่ปี 2547 ก็ตั้งครรภ์ จนคลอดแดงน้อย” เธอเล่าเสียงนุ่มด้วยสีหน้ารำลึกสุข มีรอยยิ้มเจือในบางช่วง เสธ.แดง แสดงความดีใจอย่างที่สุดที่มีลูกชาย ซึ่งหลังจากที่เธอตัดสินใจนำน้องแดงน้อยไปเลี้ยงที่บ้านเกิด เสธ.แดง ก็ส่งเสียเลี้ยงดูมาโดยตลอด และมักหาเวลานัดพบเธอและลูกอย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง กระทั่งปัจจุบัน น้องแดงน้อยเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ทุกครั้งที่พ่อลูกเจอหน้ากัน สถานที่เที่ยวคือสวนสัตว์ ขี่ม้า และพาไปดูรถถัง โดยฝันของ เสธ.แดง คืออยากให้ลูกเป็นนายทหาร และเป็นนักรบที่เก่งให้ได้อย่างพ่อ

//ลูกพ่อ ต้อง “แมนๆ”

เธอยอมรับว่า หลังจาก เสธ.แดง ล่วงลับ ครอบครัวเธอไม่ต่างจากเสียเสาหลักไป แม้ครอบครัวจะมีธุรกิจสวนยางพารา ที่จะสามารถเลี้ยงดูลูกชายต่อไปได้ แต่ภาระเรื่องค่าเล่าเรียนกว่า 20,000 บาทต่อเทอม ก็หนักหนามิใช่น้อย ทั้งยังกังวลถึงอนาคตของน้องแดงน้อยว่า จะสามารถร่ำเรียนโรงเรียนนายร้อย ตามที่ผู้เป็นพ่อฝากความหวังไว้ได้หรือไม่ เนื่องจากต้องใช้ทุนการศึกษาอีกไม่น้อย

“แดงน้อยเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย อารมณ์ดีตั้งแต่เล็กมาแล้ว ไม่ต้องสอนว่า เจอใครแล้วต้องยกมือไหว้ แดงน้อยจะเข้าไปทักทายทันที ซึ่งน่าจะได้จากคุณพ่อ เพราะเป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ดี อย่างไปเจอคุณยายขายของ แดงน้อยจะเดินเข้าไปถามทันทีว่า สวัสดีคุณยาย คุณยายขายอะไรครับ คุณพ่อเขายังพูดว่า ทักทายเหมือนกับเป็น สส.เลยเชียวลูกกู (หัวเราะ) หรือเวลาที่คุณพ่อเขาแต่งชุดนักรบไปรับที่โรงเรียน เขาก็จะพูดว่า คุณพ่อแต่งตัวเท่จังเลยครับ

“คุณพ่อเขาถามว่า หนูอยากแต่งตัวเท่แบบคุณพ่อหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นต้องเรียนหนังสือให้เก่ง จะได้เป็นแบบคุณพ่อ จริงๆ แล้ว พี่แดงเขาภาคภูมิใจที่มีลูกชาย เขาอยากได้ลูกผู้ชาย

“เวลาปิดเทอมก็จะพาลูกขึ้นมาหาที่กรุงเทพฯ แล้วก็พาไปสวนสัตว์ ไปขี่ม้า ขี่ช้าง ยิงปืน หรือไปปีนหน้าผา จะพาลูกทำกิจกรรมที่เน้นออกแมนๆ ขนาดดาพาลูกไปเรียนศิลปะ พี่แดงบอกเลยว่า “ไม่ได้ๆ เดี๋ยวลูกจะไม่แมน” จริงๆ เราอยากให้ลูกเรียนศิลปะ จะได้มีสมาธิในการเรียน เขาก็บอกว่าไม่ได้ ต้องพาไปชกมวย ว่ายน้ำ แล้วสอนยิงปืน นอนกลิ้งไปกับพื้นให้ลูกดู แล้วก็บอกว่าต้องทำแบบพ่อนะ”

บ่อยครั้งที่ เสธ.แดง มักจะพาน้องแดงน้อยไปเที่ยวราชบุรี บ้านเกิดของตนเอง และส่วนใหญ่ก็จะพาไปดูค้างคาวที่วัดเขาช่องพราน ซึ่งยามเย็น จะมีค้างคาวบินออกหากินมากมายจนมืดฟ้ามัวดิน

วันหนึ่งขณะที่ฝนโปรยปราย ด้วยความเป็นแม่ซึ่งยอมรับว่าเลี้ยงลูกแบบ “ไข่ในหิน” ไปบ้าง ทำให้เธอพาลูกหลบฝน แต่ตรงข้ามกับ เสธ.แดง ที่พาน้องแดงน้อย ออกไปดูค้างคาวท่ามกลางสายฝน “พี่แดงจะเรียก ไอ้ตัวเล็กออกมาเลย” ซึ่งน้องแดงน้อยก็ขานรับคุณพ่อแต่โดยดี เดินไปเคาะสังกะสีเพื่อให้ค้างคาวบินออกจากถ้ำ เท่านั้นเอง พ่อและลูกชายก็ยิ้มได้อย่างมีความสุข

//ลูกคนเดียว ไม่ค่อยรู้จักการแบ่งปัน

เพราะแต่งชุดลายพรางมาตลอดเวลาอย่างภาคภูมิใจ เมื่อมีลูกชายสมความตั้งใจ เสธ.แดง จึงอยากให้น้องนักรบเจริญรอยตาม

“พี่แดงตั้งใจไว้ว่า อยากให้ลูกสอบเข้าเตรียมทหาร ดาก็จะพยายามผลักดันลูก ให้เป็นไปตามที่พี่แดงต้องการ ก็คือพยายามฝึกเขาให้เก่งในทุกๆ ด้าน แต่คิดว่าสิ่งสำคัญในการเลี้ยงลูก นอกจากเก่งแล้วต้องมีคุณธรรมด้วย ต้องมีหลายๆ อย่างเป็นองค์ประกอบ และต้องเข้ากับสังคมได้

“ถ้ามีอะไรเข้ามาในชีวิต เขาก็ต้องยอมรับกับมันได้ ซึ่งจะทำให้เขาแก้ปัญหานั้นได้ ตอนนี้เขายังเล็ก ดาจะสอนให้เขารู้จักการแบ่งปัน ความที่เป็นลูกคนเดียว ก็จะไม่ค่อยแบ่งปันอะไรกับใคร เราพยายามบอกเขาว่า ลูกต้องรู้จักแบ่งปันให้กับคนอื่นนะ แล้วคนอื่นก็จะให้เรากลับคืนมา แม่คนอื่นอาจจะตามใจลูก แต่ดาจะไม่ค่อยตามใจลูกมากนัก มีบางเรื่องที่ตามใจ แต่บางเรื่องก็ต้องเข้มงวด อย่างตอนนี้เขาเรียนอยู่อนุบาล 3 พอกลับจากโรงเรียนก็จะให้ทำการบ้านก่อน ถ้าเขาไม่ทำก็จะไม่ให้เล่น” เธอดูเข้มแข็ง และยืนยันที่จะเลี้ยงน้องแดงน้อยให้เป็นนักรบตามความตั้งใจของผู้เป็นพ่อให้ได้

//เผยตัว…มิใช่เพราะอยากเด่นหรืออยากดัง

วันนี้ ทั้งแม่และลูกก้าวออกมาจาก “เงามืด” อย่างเต็มภาคภูมิ เพื่อให้ “ลูกชายคนเดียว” ของเธอ ภูมิใจกับการเป็นเด็กชายนักรบ สวัสดิผล ที่มีบิดาซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ เสธ.แดง

“เสียพี่แดงไป ครอบครัวเราก็มีผลกระทบกับชีวิตเหมือนกัน เพราะตอนที่พี่แดงยังมีชีวิตอยู่ พี่แดงจะคอยจุนเจือมาตลอด วันนี้รายได้จะมาจากเราเพียงคนเดียว การออกมาครั้งนี้ไม่ได้ต้องการอยากจะดัง ไม่ได้มาเกาะกระแส แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ต้องออกมา ด้วยความเป็นแม่ เราก็ต้องออกมาปกป้องลูกอยู่แล้ว

“อยากให้ลูกมีเกียรติในสังคม ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ก็ให้รู้ว่าเขาเป็นลูก เสธ.แดง ชื่อ-นามสกุลที่ติดอยู่ป้ายเสื้อตรงนี้ อยากให้เขาภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูก เสธ.แดง ไม่ใช่ให้เขาหายสาบสูญไปโดยไม่รู้ว่าพ่อเขาเป็นใคร”

ไฉนเธอจึงอดรนทนอยู่ในเงามืดมานานถึง 5 ปี เท่ากับอายุของลูกชาย

“ตลอด 5 ปีที่ไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ ก็ไม่ได้อึดอัดอะไร พี่แดงบอกว่าครอบครัวคือจุดอ่อนของเขา หากเปิดเผยไปก็จะเป็นอันตรายกับเขาและลูกด้วย ถ้าให้คนรับรู้เยอะ อาจไม่ดี

“จริงๆ หากพูดไป พี่แดงก็ไม่ได้ปิดบังนะ ไม่ว่าจะไปเดินห้าง หรือไปเป็นประธานเปิดงาน ที่ไหน เขาก็จะพาลูกไปด้วยตลอด เพียงแต่ไม่มีใครสงสัย ตรงนี้เองทำให้ลูกไม่กลัวผู้คน แดงน้อยเลยเป็นเด็กที่กล้าแสดงออก”

ใครจะคาดว่า เด็กชายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู มีมนุษยสัมพันธ์เกินวัย จะเป็นลูกไม้ใต้ต้นของนายพลคนดังที่เขาพบเห็น

//เห่อที่ได้ลูกผู้ชายมาสืบทอดความเป็นนักรบ

จะด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ หรือสิ่งใดมาดลใจเธอก็เหลือจะเดา ที่ทำให้เธออยากให้น้องแดงน้อยได้กราบศพคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งที่เคยตั้งใจว่า จะไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเธอและ เสธ.แดง แต่เพราะฉุกคิดขึ้นมาว่า ต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ลูกสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างภาคภูมิใจ

“ชื่อนักรบหรือชื่อแดงน้อย คุณพ่อเขาเป็นคนตั้งให้ตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาลเลย คลอดออกมาคุณพ่อเขาก็จะอุ้มทั้งคืน แม่เลยนอนหลับสบาย (ยิ้ม) ได้เห็นพี่แดงร้องเพลงกล่อมลูก แต่เป็นเพลงอะไรจำไม่ได้แล้ว เราบอกว่าพี่ร้องเพลงให้ลูกฟัง ลูกก็ไม่รู้เรื่องหรอกนะพี่ แต่เขาบอกว่า ‘เฮ้ยพี่เรียนครุศาสตร์มา เรียนเกี่ยวกับแม่และเด็ก จะรู้เรื่องเด็กดี’ ความที่เขาอยากได้ลูกผู้ชาย ตอนแรกพี่แดงกลัวว่าจะเป็นลูกสาว ก็ลุ้นอยู่พักใหญ่ แต่พอรู้ว่าเป็นลูกผู้ชาย เห่อใหญ่เลย (ยิ้ม)

“ก่อนจะมีแดงน้อย พี่แดงจะชอบกินกุ้งแช่น้ำปลา โดยตอนนั้นพี่แดงยังไม่รู้ว่าเรากำลังจะมีน้อง พอมารู้ว่าจะได้ลูกผู้ชาย พี่แดงดีใจมาก” เธอเล่าอย่างชวนให้เห็นภาพ เสธ.คนดังเห่อลูกชายตัวน้อย

//“นักรบ” มิได้รับการยอมรับให้เป็น “น้องชาย”

จากข่าวที่ว่าทั้งคุณดาและลูกชาย ยังเป็น “คนอื่น” สำหรับครอบครัว เสธ.แดง เธอยอมรับว่าเป็นธรรมดาที่ทำให้เสียใจอยู่บ้าง เธอเท้าความไปว่า ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่น้องแดงน้อยเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 ที่โรงเรียนอนุบาลสาริน เสธ.แดง จะไปรับส่งปกติ

“บางวันรับแล้วก็พาไปกินข้าว สองพ่อลูกก็จะเอาตะเกียบขึ้นมาฟันกัน (หัวเราะ) พอตกเย็นก็จะพาเข้าไปที่บ้านพักย่านยานเกราะ ซึ่งน้องเดียร์ (ขัตติยา สวัสดิผล) ลูกสาวของพี่แดงก็อยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วย แต่ยังไม่เจอกัน กระทั่งวันหนึ่งลูกสาวพี่แดงมาที่บ้าน เลยได้รู้เรื่องนี้โดยบังเอิญ

แดงน้อยถามว่า “ใครครับคุณพ่อ” พี่แดงก็บอกว่า “พี่สาวของแดงน้อยไง” แล้วแดงน้อยก็วิ่งเข้าไปจับมือน้องเดียร์ แต่ดาเข้าใจความรู้สึกของน้องเดียร์ที่รับตรงนี้ไม่ได้ ตอนนั้นดาบอกพี่แดงว่า “พี่แดงต้องคุยกับน้อง ดาเป็นคนนอก พูดอะไรไปน้องเดียร์คงไม่ฟัง” คือดาเข้าใจน้องเขา ถ้าเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วเราเป็นลูกสาวพี่แดง อยู่ในสถานการณ์อย่างนั้น เราก็คงรับไม่ได้” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การที่ เสธ.แดง พาทั้งคุณดาและลูกชายไปราชบุรีบ่อยครั้ง ทำให้ญาติบางคนรับรู้ว่า น้องแดงน้อยคือลูกชาย เสธ.แดง

//น้องแดงน้อยครวญ อยากไปอยู่กับพ่อบนสวรรค์

ระหว่างที่ เสธ.แดง ถูกลอบยิงจนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ทำให้น้องแดงน้อยซึ่งไม่พบหน้าผู้เป็นพ่อ บ่นกับผู้เป็นแม่ไม่ขาดปากว่า เมื่อไรคุณพ่อจะหาย เป็นคำถามอย่างไร้เดียงสา แต่ผู้เป็นแม่ได้ยินทีไร น้ำตาร่วงเผาะแทบทุกครั้ง

“ตอนเกิดเหตุ เขาเห็นคุณพ่อในทีวี เราก็จะบอกเขาว่า ‘เดี๋ยวแม่จะไปเยี่ยมคุณพ่อนะ’ เขาก็จะบอกว่า ‘คุณแม่ฝากบอกคุณพ่อด้วยนะว่า สัญญาที่จะซื้อปืนให้สองกระบอก ต้องให้คุณพ่อซื้อให้ แล้วฝากคุณแม่มาด้วยนะ’ ดาก็บอกกับลูกว่า ‘เดี๋ยวให้คุณพ่อหายก่อน แล้วคุณแม่จะพาไปเยี่ยมคุณพ่อ’ จริงๆ แล้วดาไปเยี่ยมพี่แดงที่โรงพยาบาลตลอด ไปกอดไปหอม แล้วไปเฝ้าพี่แดงตลอด

“แดงน้อยยังบอกว่า ‘คุณแม่บอกคุณพ่อนะ ให้คุณพ่อหาย แล้วแดงน้อยจะขึ้นไปเยี่ยม’ เขาจะถามเราตลอดว่า ‘เมื่อไหร่คุณพ่อจะหาย’ พอพี่แดงเสีย ดาก็ไปช่วยงานที่วัดทุกวัน บางวันก็เสิร์ฟน้ำบ้าง ดาทำตามหน้าที่ของเราเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้

“หลังจากนั้นก็กลับไปบ้าน ลูกถามว่า ‘คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง’ เราก็บอกน้องไปว่า ‘คุณพ่อไปแล้ว’ เขาก็ถามอีก ‘คุณพ่อไปไหน’ ดาก็บอกว่า ‘คุณพ่อไปสวรรค์’ ลูกฟังแล้วเหมือนจะอึ้งไปพักหนึ่ง”

คุณดาเล่าอย่างชวนให้ผู้ฟังน้ำตารื้น แต่ประโยคลูกชายตัวน้อยที่ทำให้ผู้เป็นแม่น้ำตากลบตา คือครั้งที่น้องแดงน้อยบอกว่า อยากไปอยู่กับพ่อ อยากไปเป็นเพื่อนคุณพ่อ

“ดาได้ฟังแค่นี้ก็รู้สึกสะเทือนใจ น้ำตาเราก็ไหลออกมา ต้องบอกลูกว่า ลูกจะคิดอย่างนั้นไม่ได้นะ ลูกจะต้องอยู่กับคุณแม่ แดงน้อยเห็นเราร้องไห้ เขาก็เอามือมาแตะตัวเรา แล้วพูดเตือนเราว่า ‘คุณแม่ๆ ร้องไม่ได้นะ คุณแม่เป็นเมียทหาร’ แล้วเราก็กอดกัน (เสียงเครือ) แต่ประเดี๋ยวเดียว ด้วยความเป็นเด็กเขาก็หายเศร้า เพราะเขายังไม่รู้ว่าการสูญเสียเป็นอย่างไร

“แรกๆ ตอนพี่แดงเสีย แดงน้อยจะเข้ามาถามว่าคุณพ่อไปสวรรค์ 10 วันจะกลับมาไหม แล้ว 100 วันจะกลับมาไหม เราก็บอกไปว่าหมื่นๆ วันคุณพ่อก็ไม่กลับมาแล้วลูก (น้ำตาคลอ) คุณพ่อไม่มีวันที่จะกลับมาหาเราแล้ว เราพยายามพูดให้ลูกรู้สึกดีที่สุด แต่หนูต้องเป็นคนดี แล้วคุณพ่อจะมองเห็นเอง” พูดจบเธอก็โอบลูกชายเข้ามากอดอย่างรันทด

//เรียกร้องสังคม…มองสองแม่ลูกเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา

การที่เธอออกมาเปิดเผยตัวตนและ “ลูกชาย เสธ.แดง” ทำให้มีประเด็นคำถามว่า น้องแดงน้อยหรือเด็กชายนักรบ เป็นลูก เสธ.แดง จริงหรือไม่ หรือเป็นแค่เพียงคำกล่าวอ้าง เธอยิ้มระโหยพลางว่า การเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด อาจทำให้มีการเข้าใจผิดได้ว่า เธอและลูกอ้างสิทธิ ซึ่งก็…ต้องทำใจ เพราะชีวิตย่อมมีทั้งด้านบวกและด้านลบ

“คุณพ่อคุณแม่ของดาก็บอกว่า…ให้ทำใจ แล้วต้องทำใจให้หนักแน่น เพราะเรายังมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู สังคมก็เป็นบทบาทหนึ่ง แต่อย่าให้สังคมเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากไป ให้เอาใจใส่ลูก ลูกเป็นสิ่งสำคัญที่นับวันเขาจะโตขึ้นเรื่อยๆ ดาอยากให้สังคมมองเราว่า เป็นแค่แม่ลูกธรรมดาคู่หนึ่ง ไม่ได้ต้องการให้มองว่าเป็นเมียหรือเป็นลูก เสธ.แดง อยากให้มองแค่ว่าเป็นแม่คนหนึ่งที่อยากจะออกมาปกป้องลูก เพื่อให้ลูกอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างมีความสุข” น้ำเสียงวิงวอน

//ลือสนั่น…เสธ.แดง เป็นสายลับ!!

แม้เธอจะยอมเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เสธ.แดง และตัวเธอ แต่เมื่อสอบถามถึงกรณีเสียงร่ำลือสนั่น ที่ระบุว่า เสธ.แดง เป็นสายลับ คุณดาขอเลี่่ยงไม่ตอบคำถามนี้ แต่ขอเปิดใจถึงการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหนังสือ “คม เสธ.แดง” แทน เธอว่าเล่ม 1 และเล่ม 2 เธอเป็นผู้เขียน ส่วนหนังสือคม เสธ.แดง เล่มอื่นๆ ก็จะช่วยพิสูจน์อักษรมาโดยตลอด

“จริงๆ แล้วดาเป็นคนเขียนเล่มแรก ช่วยกันเขียนกับพี่นักข่าวอีกคนหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด ชื่อพี่ริน ซึ่งมาช่วยเกลาแล้วก็ช่วยเรียบเรียงตัวหนังสือทั้งหมด ก็เลยเป็นที่มาของหนังสือคม เสธ.แดง (หัวเราะ) แต่พอพิมพ์หนังสือไปแล้ว ตัวหนังสือผิด พี่แดงก็จะบ่นว่าเป็นนักข่าวมาได้ยังไง ไม่ได้เรื่องเลย จิตใจไปอยู่ตรงไหน พอดีวันนั้นเป็นวันวาเลนไทน์ด้วย พอเห็นว่าเราหน้าเสีย แกก็เอาดอกไม้มาให้ 1 ช่อ ผูกด้วยรูปหัวใจเป็นภาพกำมะหยี่สีแดง ก็มีมุมที่หวานโรแมนติกอยู่นะ (หัวเราะ) เพราะภาพภายนอก คนจะดูว่าเป็นคนแข็งกระด้างมากกว่า”

เรื่องกุ๊กกิ๊กๆ ของชายชาติทหารก็มีเหมือนกัน “ตอนจีบกันแรกๆ พี่แดงจะชวนไปกินข้าว แล้วพูดว่า ดาน่ะเหมือนตุ๊กตานะ เพราะหน้าคม เวลานั่งในรถก็จะร้องเพลง “จากยอดดอย” ให้ฟัง ที่มีเนื้อร้องว่า “จากยอดดอยแดนไกล ใครจะเห็น ยากลำเค็ญเพียงใดใจยังมั่น จะปกป้องผองภัยชั่วนิรันดร์ สิ้นชีวันก็ยังห่วงหวงแผ่นดิน ด้วยหน้าที่ชีวิตรับผิดชอบ คือคำตอบที่รบอยู่มิรู้สิ้น ความภูมิใจลึกล้ำด่ำอาจิณ รักแผ่นดิน รักเกียรติศักดิ์นักรบไทย คิดถึงยอดหฤทัยใจจะขาด แต่ไม่อาจตัดใจทิ้งไปได้ ด้วยหน้าที่ศรัทธาสาใจกาย คงความหมายเกินค่ากว่าชีวี ส่งใจข้ามขอบฟ้าห่วงหาเสมอ หวังเพียงเธอนึกถึงผู้อยู่ที่นี่ ขอให้รอวันรุ่งของพรุ่งนี้ ฟ้าคงมีพรชัยให้กับเรา

“เพลงนี้ลูกชายก็ร้องได้ เขามักจะถามว่า ‘คุณแม่คิดถึงคุณพ่อใช่ไหม’ เขาจะปลอบดาเสมอๆ ว่า ‘คุณแม่นอนนะ หนูจะร้องเพลงนี้ให้ฟัง’ แล้วเขาก็จะร้องเพลงจากยอดดอยให้ฟัง แล้วก็หันมาถามคุณแม่ว่าหายคิดถึงหรือยัง”

ถ้าจะบอกว่า คนฟังฟังแล้วแทบปาดน้ำตา ก็ดูจะใกล้เคียงความรู้สึกยามนี้

“ตอนที่พี่แดงยังมีชีวิตอยู่ โทรศัพท์มาหา ถ้าน้ำเสียงอารมณ์ดี ก็จะขอให้ร้องเพลงนี้ให้ฟังแทบทุกครั้ง”

หมายเหตุกองบรรณาธิการ บทเพลงจากยอดดอย เป็นเพลงที่มีเนื้อหาให้กำลังใจทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดน เมื่อครั้งต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ให้ พ.ต.ณรงค์เดช นันทโพธิเดช และ แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ประพันธ์คำร้องและทำนองถวาย

//หากเลือกได้ ขอตายแทน

แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่า การที่ เสธ.แดง มีบทบาททางการเมือง ทั้งในการชุมนุมของ “สีเสื้อ” ทั้งเหลืองและแดง แต่เธอก็มิได้คิดจะห้ามปราม เนื่องจากเคยถูกขอร้องไว้ “พี่แดงเคยพูดว่า ถ้าเราห้ามหรือพูดอะไรบั่นทอน จะทำให้เขาเสียกำลังใจ เขาบอกว่าน้องดาจะต้องให้กำลังใจพี่นะ พี่จะได้ออกรบได้อย่างเต็มที่

“สิ่งที่ห่วงที่สุด ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ เมื่อมีข่าวดังขึ้นมา เราก็นอนไม่หลับ เป็นกังวล คือเราไปช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้ก็แต่ภาวนาแล้วสวดชินบัญชร ถามว่ารักมากไหม…รักมาก สามารถเอาชีวิตแลกให้ได้” น้ำเสียงอาลัยอย่างเห็นได้ชัด

ระหว่างที่ เสธ.แดง นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล คุณดาจึงเดินสายกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งไหว้พระวัดเล่งเน่ยยี่ และขอพรจากเจ้าแม่กวนอิม เพื่อให้ช่วยชีวิตสามี “ไหว้เจ้าแม่กวนอิมเพื่อขอให้พี่แดงฟื้น ขอให้มีชีวิตกลับคืนมา แล้วก็เอาชีวิตลูกไปแทน เพราะอยากให้พี่แดงได้อยู่กับลูกนานๆ ให้คุ้มค่ากับการที่เขาอยากจะมีลูกผู้ชาย ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับพี่แดงคือ วันที่ 12 พฤษภาคม ประมาณห้าโมงกว่า จะโทร.ไปบอกว่าพรุ่งนี้ลูกเปิดเทอมแล้วนะ แต่พี่แดงไม่ได้รับสาย”

แต่เมื่อไรที่ได้พูดสาย ประโยคที่ทำให้เธอยิ้มได้คือ “พี่แดงจะเรียก ‘ไอ้หมูอ้วนไม่ต้องเป็นห่วงพี่นะ’ หรือบางครั้ง ‘ไอ้หมูอ้วนไปลดน้ำหนักได้แล้วนะ’ เพราะดามีนิสัยการกินไม่มีระเบียบ แล้วก็จะถามว่าลูกหลับหรือยัง ถึงอยู่ห่างกันพี่แดงก็จะโทร.คุยตลอด แล้วก็บอก ‘ไอ้หมูอ้วน แม้ไม่ได้ไปหาก็คิดถึงเราทั้งสองคน’ ดาอยู่กับพี่แดงได้เพราะใช้ความรัก ใช้ความใจเย็น และใช้ความอดทน”

เธอบอกเสียงเบา ราวย้ำกับตัวเองอีกครั้ง ถึงชายผู้เป็นที่รักซึ่งเธอบอกว่า สามารถ…ตายแทนได้

เพียงแต่ เมื่อแทนกันไม่ได้ ที่เหลืออยู่คือผู้สูญเสีย ที่ต่างก็รักเขา ไม่แพ้กัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น