สุทธิคุณ กองทอง หนุ่ม

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สึนามิถล่มโรงแรมสูญ 300 ล้าน ประพฤทธิ์ ข้อเพชร สู้ไม่ถอย ฟื้นเขาหลัก สร้างพังงาเที่ยวได้ทั้งปี

เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง

ภาพ : นพพล ภาคสุทธิผล


สึนามิถล่มโรงแรมสูญ 300 ล้าน

ประพฤทธิ์ ข้อเพชร

สู้ไม่ถอย ฟื้นเขาหลัก สร้างพังงาเที่ยวได้ทั้งปี


สึนามิ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่มีใครเคยคาดว่าจะเกิดในไทย หลายปีก่อนกลับ คร่าชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนให้สูญสลายในพริบตา เขาคือหนึ่งในเหยื่อสึนามิที่ต้องสูญโรงแรม 2 แห่ง ซึ่งประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านไปต่อหน้าต่อตา ทว่ากลับลุกขึ้นมาพลิกฟื้น สร้างโรงแรมให้คืนกลับสู่ความเป็นมายาแห่งท้องทะเล ที่มีความงามรอบตัว 360 องศา ดังเดิม

เพียงไม่กี่ปีที่กระแสการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใน หลายประเทศ ทั้งแผ่นดินไหวร้ายแรงในเฮติและชิลี หิมะตกหนักในรอบ 40 ปี และน้ำท่วม ครั้งใหญ่ที่ประเทศจีน ไปจนถึงภูเขาไฟปะทุใต้ธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์ เป็นต้น ล้วนได้คร่าชีวิต ผู้คนไปไม่ใช่น้อยในทั่วทุกมุมโลก ภัยธรรมชาติจึงกลายเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึง ทำให้หวาดวิตก ถึง “คำทำนายวันสิ้นโลก” ที่หนังฮอลลีวูดเรื่องหนึ่ง นำความเชื่อของชนเผ่ามายามาสร้างเป็นเรื่อง เป็นราว

รวมถึงการเกิดเหตุการณ์สึนามิที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดบนแผ่นดินไทยเมื่อหลายปีก่อน มาบวกรวมการเกิดแผ่นดินไหวในหลายประเทศในวันที่ 12 มิถุนายน ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็น ปรากฏการณ์ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการเรียงตัวของดาวเคราะห์นั่นเอง นอกจากนี้ยังมี ข่าวการเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือ สตอร์มเซิร์จ ในบริเวณอ่าวไทย และแผ่นดินไหวตาม 13 รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย ซึ่งล้วนตอกย้ำกระแสที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา และนักวิชาการด้านต่างๆ ทยอยออกมาแสดงความคิดเห็นถึงความเป็นไปได้ในการสิ้นสลาย ของโลกสีน้ำเงินใบนี้ในไม่ช้า หากทุกคนยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติที่กำลัง จะขอทวงคืนจากมนุษย์

โดยเฉพาะประเทศไทยคงยังไม่มีใครคลายทุกข์โศกจากความสูญเสีย แม้เวลาผ่านมา กว่า 5 ปี กับภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่ธรรมชาติมอบให้แก่มวลมนุษย์จากคลื่นยักษ์สึนามิที่ซัดกระหน่ำ ชายฝั่งอันดามันตั้งแต่เกาะสุมาตรา มาจนถึงเมืองท่องเที่ยวภาคใต้ฝั่งตะวันตกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้สร้างความสูญเสียมากมายมหาศาล ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จนกลายเป็นภาพความทรงจำอันแสนจะเลวร้าย

จวบจนวันนี้ คุณโจ-ประพฤทธิ์ ข้อเพชร กรรมการผู้จัดการ เขาหลัก ลากูน่า รีสอร์ท และ ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ยอมเผยความรู้สึกเมื่อคราวที่โรงแรมทั้ง 2 แห่งได้สลายไปกับคลื่นสึนามิ

////// ทุ่ม 600 ล้าน ฟื้นโรงแรมในเครือ

แม้ว่าจากหลักฐานทางธรณีวิทยา พบว่าก่อนเกิดสึนามิครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2547 เคยเกิดสึนามิครั้งใหญ่ในประเทศไทยเมื่อ 600 ปีที่แล้ว ทว่าครั้งล่าสุดที่คลื่นยักษ์สึนามิถล่ม ประเทศไทย โดยเฉพาะเขาหลักซึ่งเป็นพื้นที่ที่เสียหายมากที่สุด คุณประพฤทธิ์บอกว่า เขาหลัก ลากูน่า พังทลายเกือบ 100% “คิดมูลค่าความเสียหายก็ตกประมาณ 300 ล้านบาท อันดับแรกที่เราต้องแก้ปัญหาคือ ลูกค้าทั้งที่เสียชีวิตและรอดชีวิต จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างไร ช่วงนั้นเลยแก้ปัญหาด้วยการเอาลูกค้าก่อนเลย โดยเราไม่มองโรงแรมเพราะเสียหายไปหมดแล้ว”
นับจากนั้นเรียกว่าหนี้สิ้นที่ไม่มีมาก่อนก็เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากก่อนเกิดสึนามิ เขาประกอบกิจการโรงแรม 2 แห่ง คือ เขาหลัก ลากูน่า และเขาหลัก บันดารี และกำลังทำห้อง ตัวอย่างของโรงแรมแห่งที่ 3 เกาะระไอส์แลนด์รีสอร์ท ทว่าทุกอย่างก็สลายไปกับสึนามิ

“พอเกิดสึนามิก็ต้องมาทบทวนว่าจะทำยังไงกับปัญหาเรื่องหนี้สินกับกิจการที่มีอยู่ ว่าจะ เริ่มต้นใหม่หรือไม่ ที่สุดก็มานั่งคิดว่าตรงนี้เป็นที่ทำมาหากินของเรา ผมเลยใช้เงินทุนกว่า 400 ล้าน ฟื้นฟูเขาหลัก ลากูน่า ให้กลับมาเหมือนเดิม ส่วนโรงแรมเขาหลัก บันดารี คุณอา-ยรรยง เข้าบริหารใช้เงินฟื้นฟูไปอีกร่วม 200 ล้าน รวมเป็นเงิน 600 ล้าน ส่วนโครงการที่เกาะระก็ต้อง พักไว้ก่อน ถ้าไม่เกิดสึนามิและผมหมดภาระหนี้สินในโครงการแรกแล้ว พอมาเจอสึนามิ ก็ต้องมาแบกภาระหนี้สินใหม่ แต่ก็ไม่ถอย
“ผมถือว่าธุรกิจการท่องเที่ยวอนาคตยังดี การท่องเที่ยวเป็นการนำรายได้เข้าประเทศ อันดับหนึ่งอยู่แล้ว ตายกี่ครั้งก็ฟื้นได้ จากสิ่งดีๆ ที่เรามีก็คือการบริการ น้ำจิตน้ำใจ และรอยยิ้ม ของคนไทย ซึ่งตอนนี้อาจต้องทำแคมเปญให้คนไทยกลับมายิ้มกันเหมือนเดิม และอยากให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อจะได้เดินกันถูกว่าต้องทำอย่างไรต่อไป เพราะถ้าเร่งทำตลาดไปแต่สุดท้าย นักท่องเที่ยวก็ไม่ตัดสินใจมาเพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” เรื่องเครียด แต่เจ้าตัวเล่าพลางหัวเราะ

////รอดปาฏิหาริย์...เพราะป่วยกะทันหัน

เผชิญความเป็นความตายในเหตุการณ์สึนามิมาอย่างอยู่รอดปลอดภัย จนเจ้าตัวย้ำว่า ปาฏิหาริย์มีอยู่จริง เนื่องจากวันที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเป็นเหตุให้เขาต้องนอนป่วยอยู่ที่บ้าน อ.ตะกั่วป่า ระยะเวลาห่างกันเพียงวันเดียวเท่านั้น “วันนั้นผมไม่สบายพอดี ไม่อย่างนั้นปกติผม ก็ต้องทำงานอยู่ที่โรงแรม แต่เกิดไม่สบายช่วงบ่ายก่อนเกิดเหตุสึนามิ 1 วัน ปวดหัว อาเจียน วันรุ่งขึ้นก็เกิดสึนามิขึ้นมาพอดี ช่วงบ่ายก็สบายดี ผมก็เลยรอด ราวปาฏิหาริย์จริงๆ และภายหลังเกิดเหตุไม่กี่วัน ก็มีการนัดหมายผู้ประกอบการทั้งหมดไปคุยกันในอุทยาน ตัวเมืองพังงา เกือบเที่ยงคืน ทุกคนรอรัฐมนตรีคลังในยุคนั้นว่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือ อย่างไร ผู้ประกอบการแทบไม่ต้องพูดอะไร เพราะท่านคิดและเตรียมการมาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที เรื่องที่คิดว่ายากกลับแก้ไขได้อย่างง่ายๆ”

1 เดือนถัดจากนั้น ผู้ประกอบการก็ได้รับความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมทันทีจากรัฐบาล จึงทำให้ความเสียหายจากสึนามิฟื้นขึ้นมาค่อนข้างเร็ว แต่ก็ยังต้องพบอุปสรรคปัญหาอีกหลาย อย่าง “จริงๆ ทำธุรกิจโรงแรมมีวิกฤตมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นโรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก แล้วมาเจอ สึนามิอีก หรือวิกฤตทางการเมืองต่อเนื่องมาไม่ขาดสาย ตอนนี้เงินช่วยเหลือพิเศษก็หมดระยะ เวลาก็ต้องมีการชำระคืน ผู้ประกอบการก็เจอปัญหาอีกว่า ช่วงไฮซีซั่นกลับมาไม่เหมือนเดิม จากที่เคยได้ 6 เดือน ตอนนี้เหลือ 4 เดือนครึ่ง แล้วช่วงโลว์ซีซั่นก็เหลืออยู่แค่ 10% ก็คงต้องหา วิธีการแก้ไขกันต่อไป” เขาบอกปัญหาที่ผู้ประกอบการฝากความหวังให้รัฐบาลหา มาตรการแก้ไขต่อไป


//เขาหลัก...พร้อมรับมือสึนามิรอบสอง

ส่วนในอนาคตหากเกิดแผ่นดินไหว เกิดสึนามิรอบสอง ทางสมาคมมีการวางแผน เพื่อรองรับกับเหตุการณ์เหล่านี้อย่างไรบ้างนั้น เพื่อไม่ทำให้ผู้คนในเขาหลักต้องหวาดกลัว กับคลื่นยักษ์สึนามิ “เขาหลักเป็นบ้านเกิดของพวกเรา ทุกคนเลยไม่กลัว เพราะมีระบบเตือนภัย ล่วงหน้าอย่างน้อยให้เรารู้ก่อน 1 ชั่วโมง ณ วันนี้ก็ผ่านเรื่องข่าวลือ วิ่งกับข่าวไม่จริงกี่ครั้งแล้ว ชาวบ้านหรือพนักงานในโรงแรมเองจะไม่ตระหนกกับข่าวลือ แต่จะมีการเช็กข้อมูลก่อนว่าข้อมูลนี้มีความเท็จจริงแค่ไหน ก่อนแจ้งไปยังนักท่องเที่ยว

“ถ้าเกิดสึนามิอีกรอบเราก็พร้อมรับมือ ทุกโรงแรมทำประกันภัยเรียบร้อยแล้ว จากเดิม ที่ทำประกันภัยไม่ครอบคลุม บางคนไม่มีความรู้เรื่องกรมธรรม์เลย แต่พอทุกคนเจอเหตุการณ์ ในวันนั้นมีความรู้เพิ่มเติมค่อนข้างเยอะ จริงๆ ก็ฝากให้กำลังใจโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากการ ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ด้วยว่า ขอให้สู้เถอะ เพราะผู้ประกอบการเขาหลักก็เจอกันมาหนัก คิดว่าผู้ประกอบการแทบทุกพื้นที่ก็น่าจะเจอวิกฤตเหมือนๆ กัน” เขาอยากให้รัฐบาลเร่ง ให้ความช่วยเหลือทันที เพราะถ้าจ่ายยาผิดขนาน และผิดเวลา คนป่วยยังไงก็ไม่มีวันฟื้น


// จับมือสายการบินเพื่อนบ้าน กระตุ้นตัวเลขเที่ยวไทย

จากตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเคยมีระยะเวลายาวถึง 6 เดือน ทว่าปัจจุบัน เหลือเพียง 4 เดือนครึ่ง เรียกว่าตั้งแต่ต้นพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้รับผลกระทบ จากการชุมนุมทางการเมือง และช่วงปลายไฮซีซั่นก็ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ตัวเลขนักท่องเที่ยวก็ลดลง ส่วนโลว์ซีซั่นไม่เคยแตะตัวเลข 10% ก็ต้องมาเจอ ต่างจากช่วงก่อนเกิดสึนามิ 6 เดือน ซึ่งผู้ประกอบการมีตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าพัก 95-96% ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศมากขึ้น แต่เนื่องจากโชคดีที่มีสายการบินโลว์คอสต์ แอร์เอเชีย ร่วมทำการส่งเสริมการตลาด และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ได้ร่วมกับ มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินที่ติด 1 ใน 3 ของเอเชียมาช่วยกันโปรโมตอีกแรง
“จำนวนห้องพักของเขาหลักเป็นรองภูเก็ตหรือกระบี่ เราก็เลยร่วมมือกับมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ในการช่วยพัฒนาตลาดท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่ ก่อนหน้านี้ก็เคยติดต่อไปยังสายการบิน แห่งชาติ ก็ได้รับคำตอบว่าเขาต้องฟื้นภูเก็ตก่อน ฉะนั้นเราก็ต้องหาทางออกของเราเอง วันนี้ เราก็มีสายการบินหนึ่งจะช่วยโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวเราไปทั่วโลกแล้ว” นายกสมาคมธุรกิจการ ท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวน้ำเสียงเชิงตัดพ้อ


/// ชูจุดขาย เที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบลองสเตย์

ถึงแม้จะต้องล้มลุกคลุกคลานในธุรกิจโรงแรม จนต้องลงทุนใหม่ถึงสองครั้งสองครา ทว่า ความรักในอาชีพธุรกิจบริการ ซึ่งเขาลงมือมาช่วยคุณพ่อ-จำเริญ และคุณอา-ทวี และยรรยง และคุณป้า-ประนอม ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี และปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จากจุดเริ่มต้นที่มีห้องพัก 56 ห้อง และเป็นรีสอร์ตแห่งแรกที่มีบริษัททัวร์เข้าในราคาห้องเพียง 300 บาท

แต่หลังจากนั้นอีก 9 ปี สามารถสร้างโรงแรมที่ราคาห้องสูงถึง 4,000 บาท เรียกว่าเติบโต มาจากโรงแรมขนาดกลางมาเป็นโรงแรมขนาดใหญ่สุดหรู ส่วนหนึ่งก็ด้วยการสนับสนุนจาก บริษัททัวร์ที่เห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ จึงให้เงินลงทุนมาก่อนแล้วจ่ายคืนในระยะเวลา 2-3 ปี ซึ่งเป็นข้อตกลงกันแบบบรรทัดเดียว ซึ่งทำให้กิจการโรงแรมเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
“นักท่องเที่ยวชาวยุโรปก็พึงพอใจกับการบริการ โรงแรมหรือรีสอร์ตต่างๆ ในเขาหลัก ของเราเป็นอย่างมาก ต้องยอมรับว่า ทางสมาคมมีความสามัคคีและเข้มแข็ง เราร่วมมือกัน ที่จะไม่มีเตียงตามชายหาด และก็จะไม่มีการค้าขายบนชายหาด โดยไม่มีใครรุกชายหาด และ กลายเป็นความสำเร็จของเรา และก็มีหลายๆ แห่งที่พยายามเดินตามเราเพื่อให้เป็นการท่องเที่ยว ระยะยาว แล้วนักท่องเที่ยวที่มาพักกับเราอย่างน้อยเขาก็อยู่ถึง 14 วัน สูงสุดนักท่องเที่ยวเคยมา พัก 3 เดือน 4 เดือน จนถึง 6 เดือนเลยก็มี

“ผมเข้ามารับตำแหน่งได้เดือนกว่าๆ มีการวางแผนที่จะพยายามรีแบรนด์พังงา โดยใช้ คอนเซปต์ Wonderful Phang-Nga: It's a Wonderful Life, It's a Wonderful Town คือเรามี ชีวิตที่เรียบง่าย แต่ขณะเดียวกันก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือร้านอาหาร เรายังมีอุทยานแห่งชาติมากที่สุด มีน้ำตกที่สวยที่สุด และก็มีแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดอีกเช่นกัน” นักธุรกิจหนุ่มที่มีหัวใจรักการบริการ บอกคอนเซปต์การท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา

นอกจากนี้ สโลแกนที่ว่ายังเตรียมนำเข้าไปใช้ในทุกแห่งทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี หรือ ออสเตรีย โดยตั้งเป้ากลุ่มตลาดในช่วงไฮซีซั่นทางสมาคมจะผลักดันโรงแรมที่เป็นสมาชิกให้มี การจองอยู่ที่ 90% และช่วงโลว์ซีซั่นให้ได้ 30-40% โดยได้วางตลาดที่จะไปโปรโมต คือ เยอรมนี นิวซีแลนด์ โดยเรียกกลุ่มลูกค้าเก่าในยุโรปให้กลับมาด้วยการวางแผนล่วงหน้า 2 ปี ที่จะจัดให้มีโปรแกรมการท่องเที่ยวได้ทุกเดือน แม้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะขนานนามพังงา ให้เป็นจังหวัดฝน 8 แดด 4 ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า เที่ยวพังงามีกิจกรรมให้สนุกได้ทั้งปี และเที่ยวได้ ทุกอำเภอ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านโคกไคร หรือชมภาพธรรมชาติชวนตื่นตาแบบ อันซีนของปูมดแดงที่กรูออกมาจากรูนับแสนตัว หรือไปชมแหล่งเกษตรกรรมสวนผลไม้ที่บ้าน เกาะนกที่ทำรายได้เข้าประเทศได้มากที่สุด

…แม้คลื่นยักษ์สึนามิจะทำลายบ้านเมืองจนราพณาสูร แต่ก็มิอาจทำให้การท่องเที่ยวที่มี เสน่ห์แบบไทยๆ สูญสลายไปตามอุบัติภัยที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น