สุทธิคุณ กองทอง หนุ่ม

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554






นิตยสาร WhO?
เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง ภาพ พัฒนฉัตร มุลวงศ์ศรี

7 ปี แห่งความรักแรกพบ

ป่าน-ถิรชนม์ ธเนศเดชสุนทร&ต๊อย-ภัทรอร ณ ระนอง

ค่ำคืนแห่งวันชื่นคืนสุข พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้ให้เกียรติเป็นประธาน ในพิธีมงคลสมรสป่าน-ถิรชนม์ ธเนศเดชสุนทร อายุ 31 ปี บุตรชาย ยุ้ย-อัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร กับ นพ.วิศิษฐ์ ถนัดสร้าง กับเจ้าสาว ต๊อย-ภัทรอร ณ ระนอง อายุ 29 ปี อดีตดาวลีดเดอร์ธรรมศาสตร์ รุ่น 59 ที่ปัจจุบันทำงานด้านแฟชั่น ซึ่งเป็นบุตรสาวของ อภินันท์ ณ ระนอง กับ ลุมาศ (ศุภมณี) ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และมี ท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร พระชนนีของพระองค์โสมฯ เดินทางมาร่วมอวยพรให้กับคู่บ่าวสาวด้วย

ความรักของคู่บ่าวสาวถูกศรปักอกอย่างแรง เนื่องจากมีเพื่อนเป็นกามเทพให้นั่นเอง ค่ำคืนนั้นเจ้าสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังต่อเจ้าบ่าว “ต๊อยรักป่านที่สุดในโลก” แขกผู้มีเกียรติต่างปรบมือเสียงดังสนั่นไปทั่ว และประโยคนี้ทำให้เจ้าบ่าวถึงกับหัวใจพองโต ยิ้มแป้นตลอดของการเปิดใจอยู่บนเวที

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีอย่างเป็นทางการ หนุ่มป่าน เล่าว่า ได้รู้จักเจ้าสาวผ่านเพื่อนที่สนิทเมื่อ 15 ปีที่แล้ว กระทั่ง 7 ปีที่แล้วได้เจอกันโดยบังเอิญ ทำให้เจ้าบ่าวแพ้ความสวยของเจ้าสาวทันที สิ่งแรกที่ประทับใจในตัวเจ้าสาวจนลั่นระฆังวิวาห์ครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าสาวเป็นคนดี มีนิสัยที่น่ารัก เป็นคนมองโลกในแง่ดี ได้คบหากันแล้วรู้สึกสบายใจ เพราะเขาสามารถเติมเต็มสิ่งที่ผมไม่มี เพราะเป็นผู้หญิงที่ดูแลผมได้ดีมาก

เมื่อถามว่าคุณแม่ชอบว่าที่สะใภ้แค่ไหน “(หัวเราะ) คือคุณแม่ไม่ชอบครับ เพราะผมว่าคุณแม่เห็นว่าผมรักใคร คุณแม่ก็ต้องรักด้วยครับ” แต่สิ่งที่คุณแม่โหยหามากที่สุดก็คือ อยากมีหลาน “ผมจะโดนเลยคุณแม่อยากอุ้มหลาน แต่ผมคิดว่าผมจะเดินทางไปฮันนิมูนที่อิตาลี เรื่องลูกคงต้องรออีกสักพักหนึ่ง ผมเลยโบ้ยไปที่พี่ชาย(ปอ-ถวนันท์) ให้แม่ไปเร่งพี่ชายให้รีบมีก่อนผมน่าจะดีกว่า จริงๆผมไม่อยากแซงหน้าพี่ชายครับ” จังหวะนั้นหนุ่มป่านกระซิบบอกว่าตั้งใจจะมีลูกทั้งสองคนก็พอ







นิตยสาร WhO?

เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง ภาพ พงษ์พันธ์ แพเพ็ชร

นักร้องกิตติมศักดิ์

โชว์ลูกคออวยพร มีชัย ฤชุพันธุ์

ต้องยกให้เป็นมินิคอนเสิร์ตระดับเวรี่วีไอพีของจริง เมื่อเหล่าคนดังระดับชาติตบเท้าขึ้นโชว์ ลูกคอในงานวันเกิดครบรอบ 72 ปี มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภา ณ โรงแรมรามาการ์เด้น เมื่อวันก่อน

ฉลองครบ 6 รอบของคุณพ่อมีชัยทั้งที ธิดาทั้งสองคน คือ มยุระ ช่วงโชติ และมธุรส โลจายะ จึงอาสา เป็นโต้โผใหญ่ คิดคอนเซ็ปต์งานเป็นธีมสีส้มตามวันเกิดของผู้เป็นพ่อ แถมยังตระเตรียมการแสดงต่างๆ เพื่อทำเซอร์ไพร์ส

เร่ิมต้นด้วยการรำอวยพรจากหลานๆ ที่ทำเอาคุณตายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จากนั้นจึงเป็นพรีเซนเทชั่น ถ่ายทอดถึงชีวิตการทำงานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมคำอวยพรจาก ผู้หลักผู้ใหญ่ของ บ้านเมือง โดยคุณมีชัย กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ พร้อมบอกมิชชั่นในอนาคตว่า “ผมยังมีภาระกิจอีก 1 อย่างที่ยังต้องทำคือ การเขียนกฎหมายพื้นฐาน ให้ประชาชนได้อ่าน แบบเข้าใจง่าย นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะต้องทำให้สำเร็จ” ว่าแล้วก็เป่าเค้กท่ามกลาง ลูกหลานที่ยืนให้กำลังใจอยู่รายรอบ

กระทั่งถึงช่วงเวลาแห่งความสนุกสนาน เมื่อมีเซอร์ไพร์สจากนักร้องกิตติมศักดิ์รุ่นใหญ่ เริ่มจาก ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และ คุณหญิงรัชนีวรรณ ควงคู่กันร้องเพลง “ใต้ร่มมลุลี” ได้หวานจับใจ ต่อด้วยคิวของ ดร.วิษณุ-วัชราภรณ์ เครืองาม ที่มาพร้อมบทเพลง “พรพรหม” ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นทั้งสองมาร้องเพลงด้วยกัน

ตามติดๆ กับ พล..วินัย-ศศิณี ภัททิยกุล ในเพลง “น้ำพริกมะขาม” และปิดท้าย กับพล...วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ควงคู่มากับภรรยา (กิ่งดาว) กับบทเพลงอมตะ “หนุ่มนาข้าว-สาวนาเกลือ” เมื่อจังหวะโดนใจ หนุ่มนาข้าวอย่างท่าน ผบ.ตร. จึงออกสเต็ปด้วยการโยกซ้ายโยกขวา ขยับลีลา จนได้รับเสียงปรบมือไม่ขาดสาย ส่วนภรรยาแม้จะไม่ยักย้ายได้ไม่เท่า แต่ก็เป็นสาวนาเกลือ ที่สวยชนะใจ

นี่ถ้าไม่ใช่โอกาสพิเศษอย่างวันเกิดคุณมีชัย คงยากที่จะได้ชมมินิคอนเสิร์ตของนักร้อง กิตติมศักดิ์รุ่นใหญ่ที่สิริอายุรวมกันแล้ว เอ้อ…หลายร้อยทีเดียว!!

ทายาท 3K วิวาห์ผู้ประกาศเรื่องเล่าฯ กฤติกา ศักดิ์มณี & วีรวิน ขอไพบูลย์ “รักนี้จะเติมเต็มไปตลอดชีวิต”






นิตยสาร WhO?

เรื่อง สุทธคุณ กองทอง ภาพ พัฒนฉัตร มุลวงศ์ศรี


ทายาท 3K วิวาห์ผู้ประกาศเรื่องเล่าฯ

กฤติกา ศักดิ์มณี & วีรวิน ขอไพบูลย์

“รักนี้จะเติมเต็มไปตลอดชีวิต”

ถึงคิวสละโสดของผู้ประกาศข่าวสาวคนสวย รายการเรื่องเล่าเช้านี้ กุ๊ก-กฤติกา ศักดิ์มณี

เมื่อเจ้าบ่าวอารมณ์ดี วีรวิน ขอไพบูลย์ ทายาทเจ้าของ 3K แบตเตอรี่ ขอชายในฝันคนนั้น จูงมือเจ้าสาวผู้เป็นที่รักเข้าสู่ประตูวิวาห์ หวานรับปีกระต่ายร่าเริง ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

หลังจากทั้งคู่ใช้เวลาดูใจพิสูจน์รักแท้กันมาประมาณ 1 ปีกว่าๆ ในที่สุด คุณกุ๊ก และคุณหนุ่มก็ตกลงเซ็นสัญญาใจร่วมกัน เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฝ่ายชายให้คำมั่นส่งเสียงสัญญารักหวานๆ ตะโกนขึ้นดังเป็นระยะ ตั้งแต่ช่วงฝ่าด่านประตูเงินประตูทอง ในพิธีหมั้นช่วงเช้าที่บ้านเจ้าสาวว่า “กุ๊กจ๋า…หนุ่มรักกุ๊กนะ” เรียกรอยยิ้มและเสียงฮี้ว…จากสักขีพยานกันถ้วนหน้า

ก่อนคู่บ่าวสาวจะไปหวานกันต่อบนเวทีในช่วงค่ำของวันเดียวกันที่โรงแรมโอเรียนเต็ล เมื่อทั้งคู่เล่าถึงที่มาของความรัก ว่าพี่ชายเจ้าบ่าว (วีระวัฒน์) เป็นคนแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน เมื่อครั้งที่ฝ่ายหญิงบินไปทำหน้าที่นักข่าวสัมภาษณ์พี่ชายเจ้าบ่าวที่เชียงใหม่ จากนั้นได้แนะนำ คุณหนุ่มให้คุณกุ๊กรู้จักว่า

“หนุ่มเป็นน้องชาย หน้าตาดี แต่นิสัยไม่ค่อยดี สนใจไหม”…ตอนนั้นคุณกุ๊กบอกไปว่าไม่สนใจ เรียกว่าอยู่มาป่านนี้แล้ว หน้าตาไม่เกี่ยงแต่ขอให้นิสัยดีก็พอ

ใครจะคิดว่าจากการพูดทีเล่นทีจริงครั้งนั้น พี่ชายเจ้าบ่าวจะหมายหมั้นเป็น แมตช์เมกเกอร์ให้น้องชายกับผู้ประกาศสาวอย่างจริงจังหลังสืบทราบว่าเธอยังโสดสนิท

ก็เชิญคุณกุ๊กไปเป็นพิธีกรในงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของ 3k แบตเตอรี่ จากนั้นคุณกุ๊กก็เป็นที่รักของครอบครัว “ขอไพบูลย์” โดยเฉพาะคุณแม่เจ้าบ่าว ทั้งรักและเอ็นดูเจ้าสาวมาก ขณะที่คุณหนุ่มเองก็เริ่มตกหลุมรักคุณกุ๊ก พร้อมกับมอบ ปากกาให้ผู้ประกาศสาวไว้ใช้ในรายการเรื่องเล่าฯ

เมื่อวันหนึ่งฝ่ายหญิงเอ่ยถาม หากปากกาหมึกหมดจะทำอย่างไร คำตอบจากหัวใจของฝ่ายชายคือ “ปากกาด้ามนี้หมึกไม่มีวันหมด เพราะรักนี้จะเติมให้เต็มตลอดชีวิต” นั่นเล่า...ทำให้ปากกาสื่อรักกลายเป็นที่มาของความรัก หวานชื่นในวันนี้ของคนทั้งคู่ ยังไม่หมดความหวานเพราะในงานเจ้าบ่าวยังร้องเพลง โอ๊ย โอ๊ย... เซอร์ไพรส์เจ้าสาวถึงกับน้ำตาซึมเลยทีเดียว

ส่วนไฮไลต์ปิดท้ายเป็นที่กรี๊ดกร๊าดเกรียวกราวเมื่อ กาละแมร์ -พัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรผู้ประกาศสาววิกพระราม 4 เป็นผู้โชคดีที่ได้รับช่อดอกไม้จากสาวกุ๊ก...ให้เพื่อนๆ ได้ลุ้นรักของสาวแมร์กันต่อไป

7 ปี บทพิสูจน์รักแท้.... อาจหาญ อยู่บำรุง * ญาณภัทร ศิโรรัตน์ “รักที่ตามหานาน” & “รักไม่มีเงื่อนไข”




นิตยสาร WhO?

เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง ภาพ ชวรินทร์ เผงสวัสดิ์​

7 ปี บทพิสูจน์รักแท้....

อาจหาญ อยู่บำรุง * ญาณภัทร ศิโรรัตน์

“รักที่ตามหานาน” & “รักไม่มีเงื่อนไข”

วันชื่นคืนสุขที่ผ่านไปได้ด้วยดีของ “โต้ง” อาจหาญ อยู่บำรุง อายุ 40 ปี ลูกชายคนโตสุดเลิฟของ ดร.ร.ต.อ.เฉลิม-ลำเนา อยู่บำรุง ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กับเจ้าสาวคนสวย “เบลล์" ญาณภัทร ศิโรรัตน์ อายุ 26 ปี บุตรสาวของ บรรเจิด-สุรีย์ ศิโรรัตน์ เจ้าของธุรกิจบางแสน เข้าสู่ประตูวิวาห์ต้องเลื่อนขึ้นมา 1 วัน จากเดิม 19 ม.ค. ไปเป็น 18 ม.ค. ที่ ห้องบางกอก คอนเวนชัน ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เหตุผล สาเหตุเพราะไปตรงกับเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ที่ราชประสงค์พอดี

เวลา 09.19 น. ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่ขบวนแห่ขันหมากฝ่ายเจ้าบ่าวบรรเลงขึ้น โดยมีสมใจ วงศ์ไทรทอง,ธิดา คุณปลื้ม ตัวแทนผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว และ รศ.ณัฐพงศ์ โปศะกบุตร,เฉลา สังข์คุ้ม เถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว พร้อมญาติพี่น้อง อาทิ วัน อยู่บำรุง,ดวง อยู่บำรุง,เง็ก กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ ฯลฯ จากนั้นก็เป็นพิธีหมั้นและพิธีรดน้ำสังข์ของคู่บ่าวสาว งานนี้คุณแม่เจ้าบ่าวมาในชุดไทยสีชมพู ได้ถามลูกชายว่า "แต่งตัวแบบนี้แม่สวยสู้เขาได้ป่าว" ทำเอาคนรอบข้างเป็นต้องอมยิ้ม และงานมงคลสมรสครั้งนี้คู่บ่าวสาวงดรับซองและของขวัญ

ในช่วงค่ำมีงานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรสของคู่บ่าวสาว โดยภายในงานมีนักการเมืองจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ ชวลิต ยงใจยุทธ ,พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ,วิทยา บุรณศิริ ,จตุพร พรหมพันธ์,มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ,พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก,มั่น พัธโนทัย ,ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ,อลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ,ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์,สมชาย วงศ์สวัสดิ์,องอาจ คล้ามไพบูลย์,พรทิวา นาคาสัย ฯลฯ

จากนั้นคู่บ่าวสาวและครอบครัวอยู่บำรุง เดินขึ้นบนเวที นำโดย ดร.ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยการกล่าวอวยพรให้คู่บ่าวสาว “เพื่อสร้างความผูกพันกับครอบครัว ผมจะจูบภรรยาทุกวันก่อนออกจากบ้าน” พูดจบมีแขกผู้มีเกียรติปรบมือชอบใจ “ผมไม่ได้สร้างภาพ กับหลานๆผมก็จูบ เอาเป็นว่าลูกผมรักใครผมก็รักด้วย” ต่อด้วยการร้องเพลงประสานเสียงของครอบครัวด้วยบทเพลง “บ้านเรา” เป็นบทเพลงประจำของครอบครัวอยู่บำรุงอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คู่บ่าวสาวพบรักกันครั้งแรกที่ ซานติก้า ผับหรูกลางกรุงย่านเอกมัยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว จากนั้นทั้งคู่ได้กล่าวความในใจและขอบคุณแขกผู้มีเกียรติในงาน “เมื่อครั้งที่เบลล์เคยฟังคนพูดรักไม่มีเงื่อนไข พอเขาพูดเบลล์ก็ยังไม่เข้าใจ แต่วันนี้ เบลล์เข้าใจแล้ว ขอบคุณพี่โต้งค่ะ” ส่วนเจ้าบ่าวกล่าวปิดท้าย “ผมอยากบอกว่าผมได้อยู่กับเบลล์แล้วไม่เลยเบื่อเลยสักนาทีเดียว ความรู้สึกมันบอกอย่างนั้นจริงๆ ซึ่งเบลล์เป็นมากกว่ารัก เบลล์เป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตของผมที่ตามหามานาน”

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

ฉลองอายุ 67 ปี แม่อ้อย ทิพสุดา สุขารมณ์







































ฉลองอายุ 67 ปี แม่อ้อย ทิพสุดา สุขารมณ์

พญ.ม.ร.ว.สิทธิมาร มุตะมะระ ,พล.ต.ต.จิรเดช เกรียงศักดิ์พิชิต,สุภาพ สุคนธทิพย์​, เทวี วงศ์วิทยา ร่วมฉลองวันเกิดครบรอบ 67 ปี "แม่อ้อย" ทิพสุดา สุขารมณ์ ภริยา นาวาโท นพ.เดชา สุขารมณ์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ท่ามกลางบรรยากาศเพื่อนพ้องและญาติมิตรมากมาย ณ ร้านอาหาร Piit พาร์คแลนด์ เอกมัย



วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

คนรู้ใจสำนักพิมพ์เปิดตัวหนังสือ “นารี จิตหนึ่งซึ่งหยั่งรู้” แนะวิธีอโหสิกรรมอย่างตรงจุด รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างวัดป่าเรียน จังหวัดนครศรีธรรมราช

































คนรู้ใจสำนักพิมพ์เปิดตัว

หนังสือ “นารี จิตหนึ่งซึ่งหยั่งรู้” แนะวิธีอโหสิกรรมอย่างตรงจุด

รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างวัดป่าเรียน จังหวัดนครศรีธรรมราช

(เวทีกิจกรรมฮอลล์ เอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์) คนรู้ใจสำนักพิมพ์ (ในเครือสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี) เปิดตัวหนังสือ “นารี จิตหนึ่งซึ่งหยั่งรู้” โดย โอด อดิศร นักเขียนบทความด้านจิตวิญญาณ นักวิชาการและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตล้านนา ผู้ติดตาม ศึกษาชีวิตและปรากฏการณ์เทวทำนายของอาจารย์นารี ผู้มีญาณทิพย์ ที่สามารถสื่อสารกับเทพเทวา สามารถใช้ญาณทิพย์พลิกฟื้น เกื้อกูล ผู้ต้องอวิชชา พร้อมแนะวิธีแก้กรรมให้กับมนุษย์ได้ เพื่อให้ผู้อ่านได้ตระหนักรู้ถึงกฏแห่งกรรม เสริมสร้างแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสมและดีงามตามแนวทางพุทธศาสนา โดยรายได้หลักจากการจำหน่าย จะนำไปสมทบทุนร่วมสร้างวัดป่าเรียน จังหวัดนครศรีธรรมราช

“นารี จิตหนึ่งซึ่งหยั่งรู้” เป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้ไม่ธรรมดา เพราะเธอเกิดมาพร้อมญาณสัมผัสแห่งองค์เทพพระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จและวิทยาการ จนนำมาสู่อำนาจการหยั่งรู้บุพกรรมของเพื่อนมนุษย์

ตั้งแต่วัย 8 ขวบ นารี คือเด็กหญิงธรรมดาคนหนึ่ง แต่สามารถทำในสิ่งที่คนทั่วไปไม่อาจทำได้ คือ การเพ่งมองดวงอาทิตย์เป็นเวลานาน แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่า นี่คือสิ่งพิเศษที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่อดีตชาติ ด้วยความตั้งมั่นอยู่ในศีลความดีเรื่อยมา เมื่อเติบโตขึ้นความสามารถพิเศษของคุณนารีเด่นชัดขึ้น จนเธอล่วงรู้ได้ว่า มีวิญญาณหมอดูชื่อ ป้าจันทร์หมอดูต้องการให้เธอผู้สืบทอดวิชาหมอดูและทำให้เธอร่ำรวยอย่างแน่นนอน แต่เธอกลับปฏิเสธเพราะเห็นว่า เป็นวิชาที่คาบเกี่ยวกับทางสายดำ

เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม กุศลถูกเติมเต็ม การประทุญาณสัมผัสจึงเกิดขึ้นผ่านชายนักปฏิบัติคนหนึ่ง ซึ่งทำให้นารีได้ล่วงรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้ ได้สื่อสารกับเทพที่คุ้มครองตัวเธอเอง นั่นคือ พระพิฆเนศ จนนำมาซึ่งดวงตาที่สาม มองเห็นภพภูมิที่ทับซ้อนอยู่ในโลกมนุษย์และสามารถสื่อสารสัมผัสกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยชี้นำแนวทางที่ถูกต้อง รวมถึงธรรมะอันลึกซึ้งที่ได้จากบรมครูทั้งหลาย

หนังสือเล่มนี้ จึงเป็นการบอกเล่าชีวิตของผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมกับบุญเดิม พร้อมเรื่องราวที่ตาเนื้อไม่อาจสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นโลกวิญญาณ เทพ พญานาค จนนำมาสู่เรื่องราวอันมหัศจรรย์ ตื่นเต้น แต่ทว่าอยู่ในหลักพุทธศาสนา และเป็นเรื่องราวที่พุทธองค์ทรงเคยตรัสถึงสิ่งเหล่านี้ว่า มีอยู่จริง แต่มนุษย์ผู้ล้นด้วยกิเลสไม่อาจสัมผัสถึงต่างหาก

ในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ นารี จิตหนึ่งซึ่งหยั่งรู้จัดขึ้นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ณ เวทีกิจกรรม ฮอลล์ เอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมเสวนาโดย คุณโอด อดิสร ผู้เขียน อาจารย์นารี บุคคลต้นเรื่อง และคุณภรภัค เตชะธนาลัย ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ www.tubthum.com พร้อมด้วยเหล่าบุคคลผู้ได้สัมผัสกับญาณทิพย์จนเปลี่ยนแปลงชีวิต ดำเนินรายการโดย คุณณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์

หนังสือ นารี จิตหนึ่งซึ่งหยั่งรู้ ผู้เขียน โอด อดิศร มีความหนา 258 หน้า ราคา 264 บาท วางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ร้านดีบุ๊คส์ ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ถนนเพลินจิต (บีทีเอสชิดลม) ทั้งนี้ อาจารย์นารี จะเดินสายทำกิจกรรมเทวทำนาย ณ ร้านนายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และบีทูเอส เร็วๆ นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร 0-2685-2254-5 หรือ www.dmgbooks.com

***********************************************************************

ขอขอบพระคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์

ประสานงาน สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร. 0-2685-2254-5 ประสานงาน ดีซี คอนซัลแทนส์ฯ โทร. 0-2610-2364

จารุวรรณ เวชตระกูล ต่อ 2214 สุรีรัตน์ ปานพรม ต่อ 2367

อัญชลี เรืองศรีศักดิกุล ต่อ 2266 ปัทมา วัฒนาพรินทร ต่อ 2377

สนพ.ดีเอ็มจีเปิดตัวหนังสือ “ยิ้มครั้งแรก โลกแตกก็ยอม” ธรรมะสร้างรอยยิ้ม (ไม่หุบ) ในแบบฉบับของ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

















สนพ.ดีเอ็มจีเปิดตัวหนังสือ “ยิ้มครั้งแรก โลกแตกก็ยอม”

ธรรมะสร้างรอยยิ้ม (ไม่หุบ) ในแบบฉบับของ

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

(เวทีกิจกรรมฮอลล์ เอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์) สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีเปิดตัวหนังสือ “ยิ้มครั้งแรก โลกแตกก็ยอม” ผลงานล่าสุดของ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 39 หนังสือธรรมะหักมุมคิด ละมุนนุ่มลึก ให้ยิ้มละไมได้ทั้งวัน ตั้งแต่ลืมตาตื่น จนถึงทิ้งตัวลงนอน ผ่านธรรมะเบาสบาย เพื่อให้รอยยิ้มครั้งแรกสามารถสร้างความสุขให้ผู้พบเห็นและหัวใจตัวเองไม่รู้จบ เพราะรอยยิ้มไม่เคยทำร้ายใคร และเป็นการลงทุนที่แสนถูก แต่ให้ผลตอบแทนชนิดที่เรียกว่า มหาศาลอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

เคยสังเกตไหมว่า ทำไมหลายคนที่ไม่หล่อไม่สวย แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม ก็เหมือนกับว่าโลกทั้งโลกสว่างไสวไปกับรอยยิ้มของเขาและเธอ พ่อแม่บางคนฝ่าฟันชีวิตอย่างแสนสาหัสเพื่อเลี้ยงชีพ แต่พอเห็นรอยยิ้มลูกน้อย ก็ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยนั้นมลายหายไปสิ้น บางคนอาจตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความเศร้า อาจจะพบเจอความสูญเสียใดๆ แต่เพียงเห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นของคนรัก ก็ทำให้ความเศร้านั้นเจือจางลงไปในพริบตา นั่นเพราะรอยยิ้ม คือ อาณาจักรแห่งความสุขของมนุษย์ทุกคน

ดังนั้นแล้ว รอยยิ้ม นอกจากจะทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี สร้างมิตรภาพที่งดงาม กระชับความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้น และยังเป็นต้นกำเนิดของความอ่อนโยน เพิ่มความสดชื่นให้ชีวิต มีคนให้ความเมตตาเอ็นดูมากมาย มนต์เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของรอยยิ้มที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว นั่นก็คือ การเป็นที่รักของทุกคนที่ได้สัมผัส

“ยิ้มครั้งแรก โลกแตกก็ยอม” เป็นหนังสือธรรมะสร้างรอยยิ้ม มีข้อคิดเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยสาระ เหมาะสำหรับนำไปในชีวิตประจำวัน และประยุกต์ใช้ท่ามกลางความวุ่นวายของสังคมเมือง หรือจะอ่านในยามพักผ่อน เพื่อเติมความสุข ลดความเครียด ก็รับรองได้ว่า ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ ยิ้มละไม ยิ้มหวาน ยิ้มหน้าบาน ยิ้มไม่หุบ ยิ้มแหย ยิ้มเยือกเย็น ยิ้มตาหยี ยิ้มมุมปาก ยิ้มกว้าง ยิ้มทั้งน้ำตา (ถึงยิ้มไม่ออกก็จะยิ้ม) หนังสือเล่มนี้จึงมีคำตอบให้อย่างครบครัน

เมื่อ ยิ้มแรก ได้ แลกยิ้ม ไม่ว่าจะไปถึงที่ทำงาน เจอแม่บ้าน เจอคนกวาดถนน เจอยามเฝ้าประตู เจอหัวหน้า เจอเพื่อนร่วมงาน เจอเจ้าหนี้ เจอปัญหากองใหญ่ เจอความเครียดถาโถม ลองฉีกยิ้มกว้าง ๆ ให้สิ่งที่พบเจออย่างจริงใจ แล้วจะพบว่า รอยยิ้มสามารถเปลี่ยนเรื่องร้าย ให้กลายเป็นดอกไม้แรกแย้มได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ แล้วผู้อ่านจะพบกับความสุขง่ายๆ ที่สร้างได้ด้วยตนเอง

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวว่า “หนังสือ “ยิ้มครั้งแรก โลกแตกก็ยอม” อาตมาได้บอกถึงวิธีการคิดและการสร้างรอยยิ้มที่ออกมาจากภายในเพื่อสู้กับทุกอุปสรรค ตั้งแต่ตื่นนอนเพื่อเริ่มต้นวันใหม่จนกระทั่งล้มตัวลงนอน เพราะ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้และคำว่า เป็นไปไม่ได้ก็มีแค่ในพจนานุกรมของคนโง่เท่านั้น อาตมาอยากแนะนำให้เรามายิ้มละไมกันทุกๆ วัน เพราะในแต่ละวันจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะทุกข์จะสุขเพียงใด ก็ให้ยิ้มรับกับเรื่องราวนั้นๆ เพราะรอยยิ้มจะนำความสุขมาได้จริงๆ จำไว้ว่า ร่าเริงบันเทิงใจเป็นกำไรของชีวิต วันไหนหงุดหงิดชีวิตจะขาดทุน

หนังสือ “ยิ้มครั้งแรก โลกแตกก็ยอม” โดย พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต มีความหนา 192 หน้า ราคา 149 บาท วางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ และร้านดีบุ๊คส์ ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ถนนเพลินจิต (บีทีเอสชิดลม) นอกจากนี้ยังมีวางจำหน่ายพร้อมโปรโมชั่นพิเศษในงาน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ที่บูธสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี G13 ห้องเพลนนารีฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 6 เมษายน ศกนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร 0-2685-2254-5 หรือ www.dmgbooks.com

***********************************************************************

ขอขอบพระคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์

ประสานงาน สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร. 0-2685-2254-5 ประสานงาน ดีซี คอนซัลแทนส์ฯ โทร. 0-2610-2364

จารุวรรณ เวชตระกูล ต่อ 2214 , อัญชลี เรืองศรีศักดิกุล ต่อ 2266 สุรีรัตน์ ปานพรม ต่อ 2367, ปัทมา วัฒนาพรินทร ต่อ 2377