สุทธิคุณ กองทอง หนุ่ม

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สัมผัสประสบการณ์มหัศจรรย์กับชีวิตหลังความตาย ท้าคุณร่วมพิสูจน์โลกหน้า กับ “สวรรค์มีจริง” และ “ท่องนรก เที่ยวสวรรค์”



-ช่อผกา วิริยานนท์ (พิธีกร)
-ดร.สนอง วรอุไร อาจารย์นักปฏิบัติธรรม ผู้มีประสบการณ์เรื่องโลกหลังความตายกับผู้ตายแล้วฟื้น
-เมตตา อุทกะพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อมรินทร์ฯ
-รศ.ดร.ด้วง พุทธศุกร์ ตัวแทนสำนักค้นคว้าทางวิญญาณ
-ณัฐพบธรรม ผู้เขียนหนังสือท่องนรก เที่ยวสวรรค์






สัมผัสประสบการณ์มหัศจรรย์กับชีวิตหลังความตาย

ท้าคุณร่วมพิสูจน์โลกหน้า กับ

“สวรรค์มีจริง” และ “ท่องนรก เที่ยวสวรรค์”

สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะในเครืออมรินทร์ เปิดตัวหนังสือ “สวรรค์มีจริง เรื่องจริงจากคนตายเล่าสู่คนเป็น 1 และ 2” ซึ่งนำมาเรียบเรียงและจัดพิมพ์ขึ้นใหม่ (ผลงานแปลโดย ศิริ พุทธศุกร์ แปลจากการจดบันทึกของ มร.แอนโธนี บอร์เจีย ตามคำบอกเล่าของวิญญาณท่านโรเบิร์ต ฮิวห์ เบ็นสัน) และหนังสือ “ท่องนรก เที่ยวสวรรค์” ผลงานโดย ณัฐพบธรรม นักเขียนหนังสือธรรมะสำหรับคนรุ่นใหม่ ในงานมีการเสวนาเรื่อง “ท่องนรก เที่ยวสวรรค์ เรื่องจริงจากคนตายเล่าสู่คนเป็น” โดย ดร.สนอง วรอุไร ,รศ.ดร.ด้วง พุทธศุกร์ และณัฐพบธรรม ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของโลกหน้า นรก และสวรรค์

รศ.ดร.ด้วง พุทธศุกร์ ตัวแทนสำนักค้นคว้าทางจิตวิญญาณ และเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือ สวรรค์มีจริง ที่อมรินทร์ธรรมะนำมาเรียบเรียงและจัดพิมพ์อีกครั้ง กล่าวถึงที่มาของหนังสือ สวรรค์มีจริง เล่ม1 และ 2 ว่า “สวรรค์มีจริง 1 และ 2 เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์จริงของคนตายพูดได้ คือ ท่านโรเบิร์ต ฮิวห์ เบ็นสัน เมื่อจากโลกมนุษย์ไปแล้วก็ได้ติดต่อกลับมายังเพื่อนของท่าน คือ มร.แอนโธนี บอร์เจีย ซึ่งเป็นผู้จดบันทึกเรื่องราวนี้ เพื่อบอกเล่าความจริงของโลกทิพย์ ด้วยบุญกุศลที่สั่งสมมา ทำให้ท่านโรเบิร์ตได้สัมผัสชีวิตหลังความตายอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งภพภูมินรกและสวรรค์ เป็นสิ่งที่ท่านปรารถนาให้มนุษย์ได้เป็นความสำคัญของโลกหน้าว่าเป็นอย่างไร จะได้ไม่หลงมัวเมาอยู่ในกิเลสตัณหา ควรเร่งสร้างบุญกุศล ทำความดีเพื่อชีวิตหลังความตายจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี”

สำหรับ “ท่องนรก เที่ยวสวรรค์” ณัฐพบธรรม ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้กล่าวว่า “เป็นหนังสือนวนิยายธรรมะ อ้างอิงจากพระไตรปิฎก โดยเล่าเรื่องชีวิตหลังความตายผ่านตัวละครคือ กฤต ชายหนุ่มผู้ไม่เชื่อเรื่องโลกหลังความตาย และกฎแห่งกรรมจนมีโอกาสได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ซึ่งในเล่มนี้ผมจะอธิบายละเอียดถึงบุญแต่ละอย่างที่เราทำจะส่งผลอย่างไร สวรรค์และนรกเป็นแบบไหน ข้อมูลจากพระไตรปิฏกที่ผมนำมาอ้างอิง จะช่วยยืนยันว่า นรกสวรรค์มีอยู่จริง และเราทุกคนเคยประสบนับครั้งไม่ถ้วน ในพระไตรปิฎก จิตเมื่อดับ จะเคลื่อนที่จากภพเดิมไปสู่ภพใหม่ นั่นก็แสดงว่าความตายไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นแค่จุดเปลี่ยนผ่าน ทุกคนในโลกนี้ล้วนผ่านการเวียนว่ายตายเกิดวนเวียนไปภพนั้นภพนี้อยู่ตลอดเวลาไม่สิ้นสุด จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะนิพพานถึงจะสิ้นสุดการเวียนว่ายตายเกิด ร่างกายที่ประกอบด้วยธาตุต่างๆจะสลายไปคืนกลับสู่โลก แต่ส่วนที่เป็นแก่นแท้คือวิญญาณยังคงอยู่ ซึ่งก็จะไปอยู่ที่ใดก็แล้วแต่บุญแต่กรรมที่สั่งสมมา ถ้าเป็นกุศลก็จะไปสู่ภพที่ดี แต่ถ้าเป็นอกุศลก็จะไปสู่ภพที่ไม่ดี”

ดร.สนอง วรอุไร อาจารย์นักปฏิบัติธรรม ผู้มีประสบการณ์เรื่องโลกหลังความตายกับผู้ตายแล้วฟื้น กล่าวถึงเรื่องโลกหลังความตายว่า “ชีวิตในปัจจุบันยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด เป็นเพียงการเริ่มต้น เมื่อก่อนผมไม่เชื่อเรื่องพระพุทธศาสนา เพราะวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ ผมจึงลองปฏิบัติด้วยตัวเอง โดยการทำจิตให้ตั้งมั่น นั่งสมาธิ เมื่อจิตเข้าถึงสมาธิแน่วแน่ จึงได้เห็นตัวเองเวียนว่ายตายเกิด ต่อมาจึงปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดปัญญาแจ้งเกิดรู้เหตุรู้ผลว่านั่นคือความจริง เพราะเราได้สัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ จากความรู้สูงสุดทางวิทยาศาสตร์เป็นเหตุให้มนุษย์ไม่เชื่อเรื่องโลกหลังความตาย เพราะโลกปัจจุบันยังพิสูจน์ไม่ได้ มีแต่ในพระไตรปิฎกเท่านั้นที่อธิบายเป็นฉากๆ และเราจะเข้าไปสัมผัสสิ่งเหล่านั้นได้ก็ต่อเมื่อเราต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง ซึ่งทุกท่านสามารถสัมผัสเรื่องเหล่านี้ได้ ถ้าจิตเป็นสมาธิจนเข้าถึงฌาน เมื่อผมได้สัมผัสด้วยตัวเองมาแล้ว จึงเชื่อในโลกหลังความตายและทำให้เราไม่อยากที่จะทำชั่ว เพื่อตายไปจะได้ไปสู่ภพที่ดี และเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี”

ทั้งสามท่านได้ร่วมอธิบายถึงลักษณะของสวรรค์ และนรกไว้ว่า “บนสวรรค์มีแต่ภาพสวยงามไปหมด มีแต่กามสุขที่เป็นทิพย์ เมื่อเราหิวจะรู้สึกอิ่มได้โดยไม่ต้องกิน ลักษณะสิ่งปลูกสร้างสวยงามซึ่งละเอียดมากเกินกว่าจะบรรยายได้ หน้าตาของเทวดาสวยงามมากกว่านางงามจักรวาลบนโลกมนุษย์มากมาย เวลาบนสวรรค์มีแต่กลางวัน ไม่มีฤดูกาล ไม่มีลมฝนพายุ ไม่มีความเจ็บป่วย การเดินทางใช้วิธีกำหนดจิตก็สามารถไปถึงได้เลย ความสวยงามบนโลกมนุษย์ไม่สามารถเทียบได้แม้แต่สวรรค์ชั้นล่างสุด ส่วนในนรกนั้น พระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่าความลึกของกระทะทองแดงต้องใช้เวลา 30,000 ปีกว่าจะจมถึงก้นกระทะ และจะวนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนั้น ผู้ที่ผิดลูกเมียคนอื่น จะต้องปีนต้นงิ้วซึ่งมีหนามแหลมคม ขณะที่ด้านล่างจะมียมทูตเอาหอกแหลมทิ่มอยู่ตลอด และด้านบนก็จะมีอีกาปากเหล็กเท้าเหล็กคอยจิกกินอวัยวะร่างกาย คนที่ทำบาปนี้จะได้รับโทษอย่างแสนสาหัส ถ้าถามว่าทำความชั่วขนาดไหนถึงจะตกนรก แค่ความโลภ โกรธ หลง ก็ถือว่าเป็นบาปแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเดรัจฉาน เราไม่ควรให้มันมีอำนาจขึ้นในใจ ส่วนการกระทำชั่วมากๆ เช่น ฆ่าพ่อแม่หรือพระอรหันต์ จะตกนรกชั้นต่ำสุดคืออเวจี และแม้กระทั่งการใช้สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เช่นโปรแกรม หรือเพลงที่ผิดลิขสิทธิ์ เสมือนเป็นการลักทรัพย์เพราะสินค้าแท้เหล่านี้ก็มีมูลค่าหลายบาท สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ตกนรกได้เช่นกัน”

สัมผัสประสบการณ์มหัศจรรย์ชีวิตหลังความตาย ท้าให้คุณพิสูจน์เรื่องของโลกหน้า นรก สวรรค์ มีจริงหรือไม่ เหตุใดคนในโลกนี้จึงควรเร่งสร้างกุศล ทำแต่กรรมดี และเป้าหมายของนิพพานมีความสำคัญอย่างไรกับชีวิตหลังความตาย พบคำตอบทั้งหมดได้ในหนังสือ “สวรรค์มีจริงเล่ม 1 และ 2 เรื่องจริงจากคนตายเล่าสู่คนเป็น” และ “ท่องนรก เที่ยวสวรรค์” จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะได้แล้ววันนี้ ที่ร้านนายอินทร์และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายการตลาดและสื่อสารแบรนด์ หนังสือเล่ม

จุฑามาศ วิภาสประทีป (เป้) โทร. 0-2422-9999 ต่อ 4145 / 081- 424-7118 Email : jutamasv@amarin.co.th

มนภา พงค์ธเนศวร (แอล) โทร. 0-2-422-9999 ต่อ 4187 / 081-771-1517 Email : manapah@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น