“คนไม่ทิ้งธรรม...ธรรมไม่ทิ้งคน”
บททดสอบชีวิตนักธุรกิจร้อยล้าน
บุญญสรณ์ เรืองธิติภาคย์
เพราะวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ที่ทำให้ธุรกิจก่อสร้างและนากุ้งใน จ.สงขลา ของ บุญญสรณ์ เรืองธิติภาคย์ ต้องเสียหายหลายล้านบาท จากนั้นเธอกับสามี (คชาพัฒน์) จึงขอไปตายเอาดาบหน้า ที่ จ.ภูเก็ต เริ่มต้นด้วยการเก็บขวดขาย ขายข้าวแกง ฯลฯ กระทั่งชีวิตค่อยๆ ดีขึ้น จนกลับมาเริ่มต้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างใหม่
ปัจจุบันทั้งคู่กลายเป็นเจ้าของบริษัท ใบบุญ พร็อพเพอร์ตี้ 2005 จำกัด บริษัท บ้านไทยร่มเกล้า จำกัด และเป็นเจ้าของที่ดินกว่า 10 ไร่ บนหาดราไวย์ พร้อมผุดโครงการคอนโดมิเนียม “บุญรักษา” มูลค่ากว่า 100 ล้าน โดยให้ทุกคนไม่ว่าจนหรือรวยสามารถเข้ามาถือหุ้นเป็นเจ้าของได้ และชั้นบนสุดจะสร้างเป็นห้องปฏิบัติธรรมด้วย และวันนี้ได้ทำในส่ิงที่ฝัน มุ่งมั่นแล้ว
วันนี้ความฝัน ความมุ่งมั่นกลายเป็นความจริงแล้ว กับ atthetreephuket คอนโดมิเนียม ภายใต้ความร่มรื่น ของต้นไม้ขนาดใหญ่ในความเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงวิวทะเลหาดราไวย์ ทุกห้องถูกออกแบบอย่างลงตัว และสร้างสรรค์ คำนึงถึงผู้อยู่อาศัย ตามหลักศาสตร์ฮวงจุ้ย เป็นหลัก มีขนาดห้องให้เลือกตามความต้องการของครอบครัว ออกแบบตกแต่งครบครัน แบบ FULL OPTION http://atthetreephuket.com/condominium.html
@ The Tree Phuket E-mail: info@atthetreephuket.com | www.atthetreephuket.com Sales Office | |
จากเรื่องราวดังกล่าวจึงมีคำถาม (ปุจฉา) ถึง พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย “ตลอดทั้งชีวิตก็ทำบุญ ทำงานเพื่อสังคม ยิ่งเราสองคนไม่มีลูก เลยคิดว่าหากตายไป สมบัติที่มีจะมอบให้กับมูลนิธิ อยากทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับดิฉันมันเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อะไรหรือเปล่า และสิ่งที่ดิฉันทำถือเป็นการสร้างบุญที่ถูกต้องหรือไม่”
/// พระมหาวุฒิชัย วิสัชนา
ในคำโคลงโลกนิติท่านกล่าวถึงความเป็นไปในชีวิตของคนเราซึ่งเป็นดั่งลูกคลื่นในห้วงมหาสมุทรที่มีขึ้น มีลง มีครึกโครม มีสงบเงียบ สลับกันเป็นพักๆ หาความแน่นอนได้ยากนั้นว่า เป็นเพราะแรงของกรรม แต่บางสำนักก็บอกว่าเป็นเพราะสาเหตุอื่นด้วย เช่น
“หมอแพทย์ทายว่าไข้ ลมคุม
โหรว่าเคราะห์แรงรุม โทษให้
แม่มดว่าผีกุม ทำโทษ
ปราชญ์ว่ากรรมเองไซร้ ก่อสร้างมาเอง”
ในทัศนะชีวิต 4 แบบนี้ แบบที่ 4 นับว่าสอดคล้องกับพุทธศาสนา ที่พระพุทธองค์ตรัสว่า กัมมุนา วัตตะตี โลโก แปลว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
คำว่า “กรรม” ในที่นี้มีความเป็นไปได้ทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่ในปัจจุบัน
กรรมเก่า หมายถึง กรรมดีก็ตาม ชั่วก็ตาม ที่เราทำไว้ คอยส่งผลมาถึงชีวิตในปัจจุบัน
กรรมใหม่ หมายถึง กรรมดีก็ตาม ชั่วก็ตาม ที่เราเพิ่งทำใหม่ในชีวิตนี้
ในฐานะปุถุชน เราไม่อาจระบุลงไปได้ว่าชีวิตของเราเป็นผลของกรรมเก่าล้วนๆ หรือกรรมใหม่ล้วนๆ ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้อย่างดีที่สุดในชีวิตนี้ก็คือ เราต้องทำตนเป็น “นักเรียนน้อยๆ” ที่พร้อมจะเรียนรู้ทุกๆ ประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา
เพราะถ้าเราเอาแต่ตั้งคำถามว่า ที่ชีวิตของฉันเป็นอย่างนี้เป็นเพราะกรรมอะไรหนอ การเฝ้าถามเช่นนี้จะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะกรรมเก่านั้นเป็นสิ่งที่เราไม่อาจแก้ได้ เนื่องเพราะมันอยู่อีกชาติหนึ่งที่ผ่านมาแล้ว ส่วนกรรมใหม่เราก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งดีๆ ที่เราได้พบในชีวิตเป็นเพราะบุญส่วนใดบ้างที่ได้ทำเอาไว้ในชีวิตนี้
ด้วยเหตุนั้นเราจึงไม่ควรเสียเวลาถามหากรรมเก่าและกรรมใหม่ แต่เราควรปลูกฝังโลกทัศน์ใหม่ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากับชีวิตของฉัน ฉันก็พร้อมจะเรียนรู้จากทุกๆ ประสบการณ์ ถ้าสิ่งดีๆ เกิดขึ้น ฉันจะนำมาเตือนตนเองว่า เพราะเราทำเหตุอย่างนี้ๆ จึงมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมาในชีวิต ในทางกลับกัน ถ้าสิ่งเลวๆ เกิดขึ้น ฉันก็จะบอกตัวเองว่า เพราะเราทำเหตุอย่างนี้ๆ สิ่งเลวๆ จึงเกิดขึ้น จากนี้ต่อไปฉันจะต้องไม่สร้างเหตุปัจจัยที่จะทำให้สิ่งเลวๆ เกิดขึ้นมาในชีวิตอีกเป็นอันขาด
ถ้าหากเราทำตนเป็นนักเรียนน้อยๆ ที่พร้อมจะเรียนรู้ทั้งจากความทุกข์และจากความสุขอยู่เสมอ ไม่ว่าชีวิตจะพบกับอะไรก็มีแต่กำไรทั้งนั้น
ชีวิตของคุณโยมสองคนที่ผ่านมานับว่าเป็นชีวิตที่มีกำไรแล้ว เคยล้มมาก่อน แต่แล้วก็กลับมายืนได้ และในการยืนได้ครั้งนี้ก็ยังตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ชวนกันหันหน้าเข้าหาธรรมะด้วย จึงนับว่าเป็นสิ่งที่ชอบแล้ว
ดอกไม้อย่างดอกทานตะวันยังรู้จักหันหน้าเข้าหาแสงสว่างจากดวงตะวัน
ทำไมคนจึงจะไม่รู้จักหันหน้าเข้าหาแสงสว่างแห่งปัญญาจากธรรมะเล่า
ถ้าหากคุณโยมปรารถนาความรุ่งโรจน์ ความสำเร็จที่ยั่งยืน ก็ขอให้เพียรมองโลกแบบนักเรียนตัวน้อยๆ อยู่เสมอ พร้อมกันนั้นก็อย่าพากันทิ้งธรรม เพราะผู้ใดไม่ทิ้งธรรม ธรรมก็ไม่ทิ้งผู้นั้นเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น