เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง ภาพ นพพล ภาคสุทธิผล
ซี - ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์
แดนปลาดิบ...Service Idol
นักแสดง/พิธีกรชื่อดัง แห่งวิก 7 สี เกิดที่ หาดใหญ่ เป็นลูกคนเล็กในพี่น้อง 3 คน มีคุณพ่อ(เกียน โชติชัยชรินทร์)เป็นเจ้าของสวนปาล์ม, โรงแรม และรีสอร์ต โดยหนุ่มซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ ได้เข้ามาช่วยงานโรงแรมด้านประชาสัมพันธ์แบบเต็มตัวให้กับ Phi Phi Hotel Group (พี.พี. โฮเต็ล กรุ๊ป) ประกอบไปด้วย 4 โรงแรม คือ 1. Phi Phi Hotel 2. Phi Phi Banyan Villa ประกอบด้วย Tonsai Seafood Restaurant และ Banyan Fitness Center 3. P.P. Casita และ4. P.P. Palmtree Resort โดย Phi Phi Hotel และ Phi Phi Banyan Villa เป็นโรงแรมที่มีอยู่ก่อนเกิดสึนามิ ส่วน P.P. Casita และ P.P. Palmtree Resort สร้างหลังสึนามิ
หนุ่มซี เล่าว่า ครอบครัวเริ่มต้นจาการทำสวนปาล์ม ทำเหมืองแร่ ก่อนจะมาทำโรงแรม โดยทางคุณป้าวิชชุดา จันทโร พี่สาวคุณพ่อ เข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการของพี.พี. โฮเต็ล กรุ๊ป (Phi Phi Hotel Group) ซึี่งเป็นคนที่ซื้อที่ เพราะชอบทำเกี่ยวพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คุณป้าเลยเป็นส่วนสำคัญผลักดันให้เกิดธุรกิจโรงแรมขึ้น ปัจจุบันมีลูกพี่ลูกน้องเข้ามาบริหารโรงแรมในเครือพี.พี. โฮเต็ล กรุ๊ป ประกอบด้วย พิชญา จันทโร (มิ้งค์) Director of Sales & Marketing วีรภัสร์ จันทโร (ต้น) General Manager วัตรพล จันทโร (ปาล์ม) Executive Assistant and Project Manager และธันยพร จันทโร (ออยล์) Secretary and Assistant to the Managing Director
“ถามว่าผมคลุกคลีอยู่กับธุรกิจครอบครัวอย่างไง ก็ถือว่าอยู่กับเขามาเข้าปีที่ 19- 20 แล้ว Phi Phi Hotel เป็นโรงแรมแห่งแรก และ Phi Phi Banyan Villa เลยเป็นสองโรงแรมที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิด้วย หลังจากนั้นก็เพิ่มมาอีกสองแห่งคือ P.P. Casita และ P.P. Palmtree Resort ผมคลุกคลีกอยู่กับโรงแรมของครอบครัวมาตั้งแต่เกาะพีพียังไม่มีอะไรเลย จำได้สมัยนั้นนั่งเรือไปสามชั่วโมงสี่ชั่วโมงนานมาก คุ้นๆว่าเป็นเรือประมงด้วย โรงแรมยังใช้ไผ่มาก่อเป็นกระท่อมเลย”เขาสะท้อนภาพโรงแรมบนเกาะพีพีในยุคที่ยังไม่ได้พัฒนาเหมือนปัจจุบัน
เวลา 20 ปี ธุรกิจโรงแรมในเครือ Phi Phi Hotel Group เติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ของนักบริหารหนุ่มสาวรุ่นใหม่ “จริงๆ ผมไม่ค่อยช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัวสักเท่าไหร่ แต่ผมจะช่วยทางด้านโปรโมทโรงแรมทั้งหมดเป็นหลัก ตัวผมเองอยู่ในฐานะดูแลเรื่องของการประชาสัมพันธ์ กลุ่มลูกค้าผมจะเป็นเพื่อนที่อยู่ในวงการแสดงเสียเป็นส่วนใหญ่ ผมจะถามพี่ชายว่าตอนนี้ห้องว่างไหม แล้วผมก็ส่งเพื่อนๆไปพักที่โรงแรม พี่ชายจะเป็นผู้ดูแลและรับช่วงต่อจากผมอีกทีหนึ่ง หน้าที่หลักๆของผมก็ช่วยทางโรงแรมของครอบครัวได้ประมาณนี้ ลูกค้าที่ติดต่อผมโดยตรงส่วนใหญ่จะเป็นเซเล็บ แต่ลูกค้าหลักของโรงแรมเป็นฝรั่งล้วนๆ คนไทยที่ไปพักส่วนใหญ่รู้จักจากผม
“โรงแรมของผมไม่ได้ไฮเอ็นด์มากนัก เป็นโรงแรมระดับกลางมากกว่า ลักษณะของคนที่มาเที่ยวเกาะพีพีไม่ได้ต้องการที่จะมาพักในโรงแรมที่หรูหรา เพียงแค่ต้องการที่พักดูแล้วสบายๆ สามารถไปเที่ยวรอบเกาะได้ พอไปทำกิจกรรมเสร็จเขาก็สามารถมานอนพักผ่อนได้แบบสบายๆ พรุ่งนี้เช้าก็ออกไปทำกิจกรรมต่อ ผมเลยคิดว่าเราเลยไม่จำเป็นต้องทำโรงแรมไฮเอ็นด์มากนัก โรงแรมของครอบครัวเลยจะเป็นโรงแรม 4 ดาวขึ้นไป สิ่งสำคัญเรื่องอาหารโรงแรมผมอร่อยแบบไม่ธรรมดา(หัวเราะ) ลูกค้าได้ชิมอาหารรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน”
สิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้าประทับใจกับการมาพักผ่อนที่โรงแรมของนักแสดงหนุ่มแห่งเมืองกระบี่ “ผมคิดว่าสิ่งที่ลูกค้ามาแล้วประทับใจก็คิดว่าเป็นเรื่องการ Service Mind ต้องบอกว่าพี่ชายผมเนี่ยเป็นคนที่มีใจในด้านการบริการมากๆ ผมเลยรู้สึกว่าผมโชคดีที่ได้เกิดมาอยู่ในครอบครัวนี้ เพราะทุกคนในครอบครัวมีพื้นฐานจิตใจที่ดี มีการคิดบวก คือครอบครัวเราทำธุรกิจด้วยความจริงใจ ลูกค้าจ่ายเงินมาเขาก็จะต้องได้รับความสุขอย่างเต็มที่ เมื่อมีปัญหาอะไรพี่ชายผมจะตัดสินใจที่ชัดเจนมาก โดยไม่ได้คำนึงว่าตัดสินใจไปแล้วจะคุ้มค่า หรือ เสียหายค่าที่ค่าต้นทุนอะไรไหม เพราะสิ่งใดที่ไม่ตรงใจลูกค้าเราต้องทำตรงนั้นให้ถูกใจลูกค้าให้มากที่สุด”
ด้วยความที่เป็นคนชอบท่องเที่ยวไปตามประเทศต่างๆ ทำให้ประทับใจในการบริการของชาวญี่ปุ่นเลยนำตรงนี้มาปรับใช้กับโรงแรมในเครือ“ผมเป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยวตลอดแล้วผมก็จะเก็บประสบการณ์ที่ดีๆมาใช้กับโรงแรมเสมอๆ ญี่ปุ่นเลยเป็นไอดอลผมทางด้านการบริการเลย มันเป็น Service Mind ที่ดีมาก ไม่ว่าเราจะเป็นใคร แค่เราเป็นลูกค้าเขา ถึงผมจะเป็นเด็ก เขาก็ให้ความเคารพผม และนี่แหละงานบริการของชาวญี่ปุ่นที่เป็นไอดอลผม เพราะถือว่าเป็น Service Mind ระดับ 5 ดาวเลย เพราะที่ญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว 4 ดาว 3 ดาว 2 ดาว หรือเป็นอพาร์ทเม้นท์เขาจะบริการเราด้วยใจที่ดีมากๆ ตรงนี้แหละที่ผมต้องนำการบริการกลับมาใช้กับโรงแรมของครอบครัวผม นั่นก็เป็นที่มาของพนักงานที่จะต้องเป็นคนคิดบวกให้ได้เสียก่อน เพราะเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำให้กับลูกค้าจริงๆ”
นอกเหนือจากนี้เพื่อให้การบริหารโรงแรมเป็นไปในทิศทางเดียวกันพนักงานทุกคนยังถูกหล่อหลอมให้อยู่ร่วมกันเสมือนพี่น้องมากกว่านายจ้างกับลูกจ้าง “พนักงานของเราจะทำงานกันเหมือนเป็นลักษณะพี่น้อง โดยจะมีการเลี้ยงสต๊าฟกันเป็นประจำ แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ไปเลย(ยิ้ม) ล่าสุดที่ไปเป็นงานสงกรานต์ยิ่งใหญ่มาก เกาะแทบพัง เพราะพี่ชายผมเป็นประธานเกาะอยู่ด้วย อยากบอกว่าโรงแรมเราขายบริการให้กับลูกค้า ฉะนั้น เรื่องการบริการมันเป็นการที่คุมมาตรฐานได้ยากมาก แต่สิ่งที่พนักงานต้องไปในทิศทางเดียวกันได้ คือ ต้องมี Service Mind ที่ดี สิ่งแรกที่ให้ทุกคนทำก็ต้องคิดบวก ไม่ได้ไปหวังผลอะไรจากเขา ไม่ใช่ไปบริการลูกค้าเพื่อหวังผลตอบแทนจากเขา หรือค่าTip อะไร ต้องให้เข้าใจตรงกันว่า สิ่งที่เราทำคือหน้าที่ในการบริการลูกค้า แม้ว่าลูกค้าบางคนจะเรื่องเยอะ ต้องการโน่นต้องการนี่มากจนเกินไปกว่าค่าห้อง ด้วยความที่เราเป็นคนที่ต้องให้บริการลูกค้า เราจะนำสิ่งนั้นมาบั่นทอนจิตใจไม่ได้ หน้าที่ของเราต้องทำให้ดีที่สุด ลูกค้าต้องการอะไรเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด แล้วจะมาตำหนิลูกค้าอะไรก็ให้มาพูดกัน แต่ห้ามไปต่อว่าลูกค้าต่อหน้าเขาเด็ดขาด เราจะทำให้ลูกค้าพอใจให้ได้มากที่สุด”
สนทนากันอย่างออกรสถึงเวลาที่ หนุ่มซี ต้องเดินทางไปทำงานต่อ เลยทิ้งท้ายเคล็ดลับในการทำงานในวงการบันเทิง และการบริหารโรงแรมเอาไว้อย่างน่าสนใจ “ไม่ว่าคุณจะมีบทบาทอะไรในทางสังคมนี้ คุณต้องทุ่มเทให้กับงาน เพราะไม่มีใครบนโลกใบนี้ทำงานได้เพียงคนเดียวแล้วสำเร็จ แต่ต้องทำงานแบบพึ่งพาอาศัยกัน ดังนั้น จะทำงานคนเดียวหรือเป็นทีมก็ต้องเคารพในหน้าที่การงานของตัวเอง และเคารพในเพื่อนร่วมงาน ทำงานก็ทำให้เกินเงินเดือนเข้าไว้ ไม่ใช่รับเงินเดือนหนึ่งพันบาทแต่ทำงานแค่พันบาทหรือเก้าร้อย รับเงินเดือนหนึ่งพันก็ทำงานให้ถึงพันห้าหรือสองพันไปเลย ผมคิดว่าถ้าทำแบบนี้ได้รับรองไม่มีอะไรมาบั่นทอนจิตใจในการทำงานได้ และจะทำให้คุณเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแน่นอน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น