เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง
ภาพ : นพพล ภาคสุทธิผล
แต่งหน้า-สไตลิสต์ : บัณฑิต บุญมี
เปิดบ้านเองตระกูล เปิดใจสมใจนึก
หัวอกพ่อกับคดีหย่า-ไม่หย่าของ เป๊ก-ธัญญ่า
ครั้งแรกกับความรู้สึกของ “พ่อเป๊ก” ที่ยอมเปิดใจเรื่องราวของบุตรชายที่เตรียมหย่ากับลูกสะใภ้ “ธัญญ่า” ปลายปีหน้า และความจริงกับเงื่อนไขสินสมรส 300 ล้าน ในบ้าน “เองตระกูล”
ความที่มีเครดิตชื่อต่อท้ายบุตรชาย เป๊ก-ร.ท.สัญชัย เองตระกูล แทบทุกครั้งเมื่อเป็นข่าว โดยเฉพาะกรณีลูกสะใภ้ ธัญญ่า ทำท่าจะฟ้องหย่าบุตรชายนับร้อยล้านบาท เมื่อกลางปีที่ผ่านมา คุณพ่อแป๋ง-สมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลังซึ่งปัจจุบันใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างเรียบง่าย จึงมิวายแอบบ่นกับเพื่อนสนิทว่า “เงินน่ะมีจ่าย แต่ (กู) อายมาก” จนเรื่องกระทั่งเรื่องยุติด้วยดีและไม่มีการฟ้องร้อง แต่ทั้งสองก็ประกาศยุติความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาไปพร้อมๆ กัน
ในวันที่ข่าวค(ร)าวเงียบสงบ คุณสมใจนึก ยอมเปิดใจในฐานะพ่อ พร้อมเปิดบ้านเก่าแก่อายุ 50 ปี ย่านสุขุมวิท ซึ่งปัจจุบันยกให้คุณเป๊ก บุตรชายเป็นเจ้าของ ส่วนคุณพ่อมาพำนักเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เนื่องจากคุณแป๋งยังมีบ้านอีกหลายหลัง ทั้งแถบชานเมืองและบ้านพักตากอากาศที่ภูเรือ จ.เลย
/// ศูนย์กลางของครอบครัว
บ้านขนาด 300 ตาราวา ใจกลางสุขุมวิท เปรียบเสมือนศูนย์กลางของสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่จะมีโอกาสได้พบกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณแป๋ง กล่าวออกตัวว่า บ้านหลังนี้ไม่มีสไตล์ชัดเจนนัก เพียงแต่รูปแบบมีกลิ่นอายของความเป็นบ้านสมัยเก่า โดยเฉพาะมุมโปรดของคุณแป๋งคือ มุมนั่งเล่นซึ่งใช้โซฟาชุดที่ย้ายมาจากบ้านที่อเมริกาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เป็นโชฟาที่นุ่ม และสบายมาก
“ที่ผ่านมาเป๊กมีการปรับปรุงบ้านให้คงสภาพเดิมเอาไว้ทั้งหมด เป๊กบอกว่าไปบ้านพ่อหลังไหน เห็นโทนสีและการตกแต่งเป็นสีครีม หรือ น้ำตาล จะรู้เลยว่าเป็นฝีมือผม(หัวเราะ) สำหรับบริเวณ ห้องรับแขกเป๊กเป็นตกแต่งเองทั้งหมด แต่ห้องประชุมเป็นสไตล์ผม เพราะจะเป็นโต๊ะ ของเลซิบอย (ฝากเช็คชื่อด้วย) ผมกับเป๊กก็ไม่ยุ่งในเรื่องของการตกแต่งห้อง เพราะคนละสไตล์กัน” อดีตปลัดคลังฯ กล่าวพลางนำชมห้องต่างๆ บริเวณชั้นล่างซึ่งเชื่อมต่อกันในแต่ละมุม
เริ่มจากมุมนั่งเล่นของคุณพ่อที่ใช้โทนสีครีมเป็นหลัก ประดับด้วยเปียโนสีขาวเข้ากัน ถัดมาจึงเป็นมุมรับประทานที่สวยเด่นด้วยโต๊ะไม้รูปทรงแปลกตา จากนั้นจึงเป็นมุมรับแขกที่ค่อนข้างเป็นทางการ และติดกันจึงเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ที่คุณพ่อแป๋งตกแต่งด้วยตัวเอง สังเกตให้ดีไม่ว่าจะมุมไหน ๆ ก็มักจะมีรูปหลานๆ ใส่กรอบตั้งให้เห็นแทบทุกมุม ขณะที่บริเวณทางขึ้นบันไดไปยังชั้นสองเป็นรูปภาพขนาดใหญ่ของลูกสะใภ้คนสวย เสมือนหนึ่งให้ผู้มาเยือนได้รู้ว่ากำลังเข้าไปยังพื้นที่ส่วนตัวของเธอแล้ว
/// ห้องนอนคือทุกอย่าง
บริเวณชั้นสองถูกแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนของสมาชิกในบ้าน ตรงกลางคือพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวีของครอบครัว ซึ่งทุกมุมจะเห็นของเล่นของน้องลียาวางอยู่ ใกล้กันมีมุมสำหรับทำครัวแบบง่าย ๆ เฉกเช่นเดียวกับห้องนอนของคุณแป๋งซึ่งตกแต่งไว้อย่างเรียบง่าย ห้องขนาดเล็กที่เป็นทั้งห้องนอน ห้องทำงาน และห้องออกกำลังกาย รวมอยู่ในพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร สร้างความสุขให้ กับผู้ชายวัย 67 ปี ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ห้องนอนของผมมีโต๊ะทำงาน มีเครื่องออกกำลังกายที่เอาไว้วิ่ง สายพานทุกวัน ซึ่งห้องนอนนี้ เดิมทีใช้เป็นห้องพระแล้วปรับมาเป็นห้องนอน” คุณแป๋งกล่าวอารมณ์ดี พลางชี้ชวนให้ดูระเบียงนอกบ้านบนชั้น 2 ซึ่งมองเห็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง จากนั้นจึงเล่าต่อว่า สมัยก่อนบรรยากาศที่นี่เงียบสงบมาก จนช่วงหลังมีการสร้างคอนโดมิเนียม ขึ้นมาอยู่ด้านหน้าทั้งซ้ายและขวาตรงหน้าบ้านพอดี เลยทำให้ฮวงจุ้ยของบ้านเสียไป
“บ้านผมอยู่ตรงกลางเจอกับลมปะทะที่พัดเข้ามาแรงมาก บ้านที่อยู่เลยเสียฮวงจุ้ยไปเลย ใครอยู่ก็ จะไม่ดี ตอนแรกคิดว่าย้ายประตูเข้าออก ถ้าทำก็จะลำบากมาก เลยมีวิธีเดียวคือ นำพระพุทธรูป ปางห้ามญาติมาประดิษฐานด้านหน้าเพื่อสู้กับลม เพื่อป้องกันคนในบ้านได้ ทั้งหมด” วิธีแก้ฮวงจุ้ย ให้บ้านหลังนี้อยู่กันอย่างมีความสุข
/// มรสุมข่าวเข้าบ้าน
คลื่นลมที่ปะทะเข้าบ้าน ‘เองตระกูล’ อาจแก้เคล็ดด้วยพระพุทธรูปปางห้ามญาติ หากแต่มรสุมข่าวที่โหมใส่สมาชิกครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในฐานะพ่อ คุณแป๋งยิ้มน้อยๆ ก่อนบอกวิธีแก้ด้วยน้ำเสียงสุขุม “คือผมอยู่ในวงการราชการ กับสื่อ ผมโดนสื่อเล่นงานมาเยอะ ผมก็ไม่ค่อยซีเรียส กับเรื่องเหล่านี้ เพราะบางเรื่องไม่ใช่เรื่องจริง ผมบอกเป๊กไปว่าอย่าไปตอบโต้เลย เงียบเหอะ อยู่เฉยๆ เป็นการให้เกียรติผู้หญิงเขาด้วย ผมบอกไปว่าเงียบได้จะดีที่สุด อย่าไปตอบโต้ แต่ถ้าอะไรต้องชี้แจงก็ต้องรีบดำเนินการ สำหรับตัวผมเองบอกไปว่าไม่ต้องห่วงพ่อ เพราะพ่อไม่มี อะไรเท่าไหร่ ถามว่าผมกลัวเสียชื่อเสียงไหม ผมเฉยๆ มากกว่า (ยิ้ม) ความจริงคือ ความจริง ส่วนแม่เป๊กก็ได้แต่นั่งร้องไห้สงสารลูก สงสารหลาน” ถ้อยแถลงของหัวอกพ่อยามที่ลูกต้องเผชิญกับกระแสคลื่นลมแรง
/// เงิน 300 ล้าน เหตุหย่า-ไม่หย่า?!?
โดยเฉพาะข่าวแรงบนหน้านิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 90 วันที่ 25 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2554 ที่มีเนื้อหาระบุถึง “เงินก้นถุง” จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งพ่อแม่ (สมใจนึก-นุชนารถ เองตระกูล) มอบให้ลูกชายกับลูกสะใภ้ เพื่อเป็นเงินก้อนแรกในงานแต่งงานโดยมีเงื่อนไขว่า เงินจำนวนดังกล่าวจะมีผล “ตอบรับ” เบิกมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อทั้งคู่ผ่านการอยู่ร่วมกันมาไม่ต่ำกว่า 7 ปี ซึ่งสิ้นปี 2555 จะเป็นปีที่ ครบตามกำหนด 7 ปีพอดี โดยทั้งคู่มีสิทธิที่จะนำเงิน 300 ล้านนี้มาจัดสรรแบ่งปันกันตาม ความเหมาะสม...นั่นหรือจึงเป็นเหตุผลที่ทั้งคู่ยื้อหย่า-ไม่หย่า?
คุณแป๋งนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะแสดงสีหน้างงๆ และเอ่ยถาม “มีด้วยเหรอ ผมยังไม่รู้เลย ข่าวเป๊ก ว่าอยู่ครบ 7 ปี ถึงจะได้สินสมรส ไม่มีมั้ง มีแต่ข้อตกลงของเขาว่า เมื่อลียาอายุ 18 ปี จะต้องโอนทรัพย์สินให้กับลูกสาวอะไรแบบนี้ แต่ที่เป็นข่าวผม ไม่รู้เรื่องเลย ได้ข่าวแต่ว่า เขาจะหย่ากันหลังวันเกิดลียาไปแล้ว”
ที่ผ่านมาคุณสมใจนึกทราบดีกว่า ทั้งเป๊กและธัญญ่า พยายามประคับประคองให้ชีวิตครอบครัวกลับมาเหมือนเดิม แต่ในฐานะพ่อก็ได้แต่ดูแลอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เท่านั้น “เป๊กมีอาการเครียด อย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าเขาเป็นคนรักลูกมาก หากเรื่องหย่าเป็นจริง ผลกระทบต่างๆ จะเกิดกับเด็กมากที่สุด ส่วนเรื่องเงินที่ฟ้องร้องกัน คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา ปัญหาสำคัญที่สุด น่าจะอยู่ที่ลูก ดังนั้นจึงอยากให้เป๊กและธัญญ่าได้ไตร่ตรองถึงผลที่จะกระทบต่อตัวเด็ก”
/// สำหรับเป๊ก “ลูก-เมียเป็นใหญ่”
นอกจากนี้ ในฐานะพ่อ คุณแป๋งยังให้แนวทางการใช้ชีวิตคู่ว่า “ต้องอดทน คือ ผู้ชายคนไทย ต้องดูว่าเจ้าชู้ไหม ฝ่ายหญิงมีความซื่อตรงไหม สมัยนี้ผู้ชายจะไปนอกลู่นอกทาง ผู้หญิงเราต้อง ปล่อยบ้าง บางคนได้ใหม่แล้วทิ้งคนเก่า แถมมีการตบตีคนเก่าอีก อย่างนี้เลวใช้ไม่ได้ เราต้องให้เกียรติผู้หญิง” ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า หากเป๊กอย่าขาดจากธัญญ่าจริงอาจกลับไปคบหากับนางเอกสาวที่ถูกพาดพิง “ผมตอบได้เลยว่าเป๊กเขาไม่ทำ เพราะเป๊กถือ ลูกถือเมียเป็นใหญ่” คุณพ่อกล่าวแทนลูกชายทันที พร้อมสำทับด้วยความรู้สึกลึกๆ ต่อว่า
“ลียาเป็นเด็กที่น่ารัก เหมือนตุ๊กตาเลย ตอนที่กลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ ลียาเหมือนฝรั่งมากเป๊กเขาจะรักลูกมาก ผมยังพูดกับเป๊กกับธัญญ่าเลยจะหย่ากันยังไงให้คิดถึงลูกด้วย วันหนึ่งพ่อแม่ต้องแก่ แต่อย่าให้ลูกโตขึ้นมาโดดเดี่ยว ผมว่าคงไม่มีอะไรหรอก สุดท้ายจะหย่ากันยังไงก็ยังอยู่ที่บ้านนี้ จริงๆ เป๊กกับธัญญ่าเขารักกันจะตาย ผมเองมี ประสบการณ์ที่พ่อแม่มัวทะเลาะกัน ลูกจะไม่มีความสุขไปด้วย ผมพยายามสอนเป๊ก จริงๆ เขาสองคนจะหย่ากันหรือเปล่าผมก็ไม่ได้ถามเลย แต่ถึงแม้ว่าจะอย่ากัน เป๊กก็ยังดูแลธัญญ่า เหมือนเดิม เพราะเขากำลังสร้างบ้านให้ลียากับธัญญ่าย่านรามอินทราด้วย” คุณแป๋ง กล่าวด้วยท่าทีอ่อนโยน
/// ลูกชายรักใคร...รักจริง
แม้จะมีข่าวกับสาวๆ ให้เป็นข่าวระคายใจอยู่บ้าง แต่คุณพ่อก็ยืนยันว่าลูกชายคนนี้ เป็นคนรักใครรักจริง ภายนอกอาจดูขึงขัง ดุดัน ด้วยปัจจุบันเป็นทหารประจำกรมสอบสวนคดี ดีเอสไอ แต่จิตใจ คุณพ่อการันตีว่าดีแน่นอน
“ผมว่าเป๊กเป็นลูกผู้ชายจริงๆ เป็นผู้ชายประเภทไม่เรียบร้อย แม้จะเป็นคนเที่ยวเก่ง เดี๋ยวนี้ไม่เห็น เที่ยวแล้ว แต่เป็นคนรักใครรักจริง (น้ำเสียงหนักแน่น) และจิตใจดี เป๊กเนี่ยในกระเป๋ามีเงิน 10 บาท พอเพื่อนลำบากก็ควัก 10 บาทในกระเป๋าให้เลย ไม่เหลือเงินติดตัวเลย เขาเป็นคนที่ดูแล คนดีที่สุด หรือเห็นน้องขับรถเก่าๆ เขาจะซื้อรถคันใหม่มาให้น้องเลย แล้วตัวเองก็เป็น คนผ่อนให้เอง เป๊กเขาเป็นคนอย่างนี้จริงๆ”
ครั้นถามว่าคุณเป๊กเป็นคนเจ้าชู้ไหม คุณพ่อยิ้มเป็นนัย ก่อนจะแบ่งรับแบ่งสู้ในคำตอบ “เรื่องนี้อย่ามาถามผม ผมไม่รู้ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าผมกับลูกสาวนิสัยจะเหมือนกันที่เป็นคนขยัน เพราะผมสร้างเนื้อสร้างตัวจากไม่มีอะไร สมัยก่อนผมยังจำได้คุณพ่อทำทาง จ.ขอนแก่น-อุดร ผมจะหนีบกระเป๋าเงินพ่อแล้วตามพ่อไปทำงานตลอด ผมเลยได้ความขยันมาจากคุณพ่อ แล้วใช้เงินเป็น”
ส่วนบุคลิกของลูกชายนั้น คุณพ่อสมใจนึกเผยว่า “สมัยที่เป๊กเขายังเล็กๆ ผมกลัวเขาจะเป็นกระเทย (หัวเราะ) เพราะเขาเป็นคนที่เนี้ยบมาก ไม่ค่อยพูดจาก ออกจะขี้อายด้วยซ้ำ ผมเลยใส่ความเป็น ผู้ชายให้กับเขาเยอะเลย สมัยที่ผมทำงานอยู่ที่ใต้ เป๊กเขาเพิ่งอายุ 11 ขวบ ผมให้เขาขึ้นเครื่องบินคนเดียวเพื่อมาหาผม แล้วใส่ความเป็นผู้ชายเยอะมาก บางทีก็ให้ไปต่อยมวยบ้าง ทำให้เขาแข็งแกร่ง ผมไม่ได้เลี้ยงลูกแบบสปอยเลย”
/// ดูแลตัวเองให้ดูดี
อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นทั้งคุณปู่และคุณตา เกษียนราชการมาหลายปี ทว่ายังคงทำงานในตำแหน่งผู้บริหารหลายบริษัท อาทิ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามรัฐ จำกัด โรงพยาบาล เวชธานี บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ กรรมการ บริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด รวมทั้งเป็นนายกราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร.ย.ส.ท. อีกด้วย
“ตอนนี้พยายามลดบทบาทงานลงบ้าง แล้วไปนั่งเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกๆ เกี่ยวกับโลจิสติกส์ และบีบี คลีนิกย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นการนำเข้าเครื่องทำความงามเทรนด์ เกาหลีครบวงจร รายแรกของไทย ตอนนี้ผมก็ช่วยลูกสาว (สิรินารถ เองตระกูล) ดูแลซึ่งกำลังขยายสาขาออกไปอีก 3 แห่ง คือรังสิต,วัชรพลและซ.มหาดไทย ธุรกิจนี้ก็ถือว่าไปได้ดี ผมว่าเป็นเพราะใจรักมากกว่า (หัวเราะ)”
ใจรักในการดูแลตัวเองให้ยังคงแข็งแรงและหนุ่มแน่นอยู่เสมอ คุณแป๋ง ยิ้มรับวัย 67 ปี ที่ดูดีกว่าเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน นั่นเพราะการออกกำลังกายและทำทรีทเมนต์ใบหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือหากมีเวลาก็จะไปเดินเร็วเป็นประจำ ทั้งที่สวนรถไฟ เยาวราช ริมคลองแสนแสบ บางครั้งก็เดินจากบ้านไปเอกมัยก็มี
/// พ่อครัวใหญ่
นอกจากกิจกรรมที่เอ่ยมา คุณสมใจนึก ยังปลีกเวลามาเป็นนักชิมด้วยการเสาะหาอาหารอร่อยๆ ไปทั่ว กรุงเทพฯ โดยเฉพาะอาหารจีน ยิ่งถ้าเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อน จะต้องขอเวลา 1 วัน ตระเวณรับประทานอาหารจีนกับเพื่อนๆ อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นคนชอบทำอาหารจีน อาทิ เมนูหมูเปรี้ยวหวาน หมูแดงต่างๆ ส่วนอาหารไทยที่ชื่นชอบ คือ ผัดกระเพรา เรียกว่าสูตรเด็ดเคล็บไม่ลับในการทำอาหารอร่อยจนถ่ายทอดให้แม่บ้านและเปิดร้านอาหารมาแล้ว
“ผมยังไปดูแลร้านอาหารย่านรังสิต โดยผมจะดูในเรื่องสูตรอาหาร จริงๆ ผมชอบทำเค้ก ช็อคโกแลตมากแล้วอร่อยมากด้วย (ยิ้ม) แต่ถ้าวันไหนจะทำ ผมต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า เพื่อเตรียมข้าวของ อย่างเค้กช็อคโกแลต เค้กแครอท และบัตเตอร์เค้ก อร่อยมากเลย” ชื่นชมอารมณ์ดีในฝีมือที่สมาชิกในบ้านพิสูจน์มาแล้ว
บทสรุปของคนเป็นพ่อ ที่ไม่ว่าลูกจะต้องเผชิญกับเรื่องร้ายหรือมรสุมใดนอกบ้าน แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว ความรัก ความอบอุ่น และความปรารถนาดีของพ่อที่มีต่อลูก ยังคงมีให้กันเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น