เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง ภาพ ชวรินทร์ เผงสวัสดิ์,พงษ์พันธ์ แพเพ็ชร
เนวิน ชิดชอบ
เรื่องของ...เกม
และข่าว...จองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ?!?
-นักการเมืองที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุดคนหนึ่ง
-ข่าวแรง...ตีตราจองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 28
-ปั้น ‘ปราสาทสายฟ้า’ โด่งดังไปทั่วประเทศ ตั้งใจ?? ฤๅแค่...กิจกรรมคั่นเวลา
-รุกด้วยพรบ.นิรโทษกรรม...เพื่อใคร
ณ พ.ศ.นี้ชื่อของ เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กลายเป็นที่จับจ้องมองว่า...คราวนี้เขาจะมาไม้ไหน??
ฉะนั้น ไม่ว่าจะขยับในฐานะมือเก๋า ‘เกม’ การเมือง หรือปั้น ‘เกม’ ในสนาม จนกลายเป็นกระแสฟุตบอลฟีเวอร์ไปทั่วประเทศ จึงไม่วายมีคำถามถึงเขาไม่ขาด
‘เกม’ ที่ทำให้ WhO? ดั้นด้นไปประชิดติดขอบสนาม I-mobile บุรีรัมย์ ครั้งนี้ มีที่มาจากความโด่งดังของสโมสรทีมฟุตบอล บุรีรัมย์ พีอีเอ ฉายา ‘ปราสาทสายฟ้า’ ฝีมือการปลุกปั้นของคนดังเมืองบุรีรัมย์ เนวิน ชิดชอบ ที่แม้จะบอกว่าทั้งหมดคือ...ความชอบ แต่ ก็ยังมีคำถามว่าเขา...เอาจริง หรือ แค่หากิจกรรมคั่นเวลา รอ...??
คู่ต่อกรของ ‘ปราสาทสายฟ้า’ (THUNDER CASTLE) แมตช์นี้ คือ "ม้านิลมังกร" สโมสรราชนาวี ระยอง ทีมดังจากภาคตะวันออก ที่ทำเอาบุรีรัมย์คึกคัก โรงแรมถูกจองเต็มหมดเกลี้ยง รถโค้ชหลายคันขึ้นป้ายจาก...จังหวัดใกล้เคียง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากเป็นครั้งรวมเหล่าแฟนฟุตบอลแล้ว ส่วนใหญ่คือแฟนพันธุ์แท้ของ...เนวิน ชิดชอบ!!
ผู้ชายร่างสูง ผิวสองสี หน้าเข้ม ที่สำคัญคือ...ตลกร้าย บางเสียงว่าลองได้รู้จักมักคุ้นกับเขาแล้ว...ดั่งต้องมนต์ ส่วนตัวเขาสำหรับเพื่อนรัก...ถึงไหนถึงกัน เอาไหนเอาด้วย ยืนยันด้วยคำของอีกสองเพื่อนร่วมน้ำมิตร วิชัย รักศรีอักษร และ อนุทิน ชาญวีรกูล “สามทหารเสือ” (The Three Musketeers) แห่งยุค
##เกมจบ...ต้องจบ
หลงใหลเกมฟุตบอลมาแต่เด็ก วันนี้เมื่อมีโอกาส เนวิน ชิดชอบ จึงทุ่มเทให้กับทีมฟุตบอลเต็มๆ ชนิดที่ไม่รับนัดใครหลังบ่ายสามโมงเด็ดขาด...ถ้าไม่จำเป็น
ขณะที่ ‘เพื่อนรัก’ วิชัย รักศรีอักษร ขึ้นทำเนียบนักธุรกิจยุโรป ด้วยการเป็นเจ้าของสโมสรทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ คุณเนวินกลับหันไปพัฒนาทีมท้องถิ่น...อย่างไรกันเล่านั่น
จากอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ไปไม่กี่มากน้อย ตรงข้ามกับโรงโม่หินของบริษัทศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด คือแนวรั้วคอนกรีตยาวที่ซ้อนด้วยรั้วต้นไม้อีกชั้นหนึ่ง แต่ก็ยังเห็นพื้นที่สนามหญ้าธรรมชาติภายใน กว้างขวาง วัวฝูงย่อมๆ และเล็มหญ้าอยู่อย่างเพลิดเพลิน ไม่ต่างจากปราการด่านแรก ก่อนผ่านประตูรั้วอีกชั้นสู่คฤหาสน์หลังงาม
คุณเนวิน เจ้าของบ้านคนสำคัญนั่งอยู่ที่นั่น กำลังอ่านหนังสือพิมพ์และหนังสือข่าวกีฬาหลายฉบับ หลังจากพบหน้าค่าตาและทักทายกันเรียบร้อยแล้ว WhO? ก็ได้รับการเชิญชวนให้ไปคุยกันที่สนามกีฬาไอโมบาย (I-mobile Stadium) ซึ่งบริษัทสามารถเทเลคอม ที่มีตระกูล ‘วิไลลักษณ์’ เป็นผู้บริหาร อีกหนึ่งมิ่งมิตรของคุณเนวิน ร่วมลงทุนลงแรงสร้าง
ระหว่างทาง ทั้งคัตเอาต์ แบนเนอร์ และโปสเตอร์หลายแห่ง เชิญชวนชมการแข่งขันแมตช์สำคัญ แน่นอนว่า มีภาพหัวเรือใหญ่ของทีม...ผู้ชายตรงหน้าเรารายนี้ ช่วยรับรองความยิ่งใหญ่ ของปราสาทสายฟ้าอยู่ในภาพด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ข่าวว่าบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง มีเบียร์ช้างกระป๋องรุ่น Limited ด้วยโลโก้ทีมปราสาทสายฟ้า!!
คุณเนวินพาเราไปถึงสเตเดียม ก่อนย้อนอดีต ที่มาของสายฟ้าฟาด...สะเทือนวงการฟุตบอลไปตามๆ กัน ปัจจุบันเขาเป็นประธานสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือบุรีรัมย์พีอีเอ ด้วยความชอบกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อมีโอกาสเข้าไปเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลสวนกุหลาบ ในฐานะศิษย์เก่า ก็สามารถนำทีมจนได้รับชัยชนะเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี ของฟุตบอลถ้วย ก. ประเภทอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนฯ
"ผมเป็นคนที่ชอบฟุตบอลมากตั้งแต่เด็ก ตอนเรียนโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม ก็เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน เล่นจนขาหัก ใส่เฝือกแล้วก็ยังไปเล่นอีก จนถูกครูตี (หัวเราะ) หลังจากไปเรียนต่อที่สวนกุหลาบฯ (โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย) ก็ได้เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน ต้องบอกว่ารักฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจทีเดียว ผมเป็นแฟนเชลซี (ยิ้ม) ถ้าไปลอนดอนก็ต้องไปดูเชลซีเตะ
"ที่ผมรักฟุตบอลมาก เพราะเป็นเกมของผู้ชาย มันเป็นเกมที่...หนึ่งคุณต้องมีความรู้ความเข้าใจ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม สอง...คุณต้องอ่านใจผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม และสาม...ทำให้คุณรู้จักคำว่า รู้แพ้ รู้อภัย เพราะวันที่คุณลงไปในสนาม คุณต้องเล่นตามกติกา แม้ผู้ตัดสินจะใช้อำนาจ เป่านกหวีดด้วยความไม่ยุติธรรม ไม่ถูกใจผู้เล่น ไม่ถูกใจคนดู...คุณก็ต้องยอมรับ เมื่อเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา...เราก็ต้องจบ หลังจากเกมจบ เราจะเห็นทั้งนักฟุตบอลและกองเชียร์ ต่างก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร" เขาเล่าอย่างผู้สันทัดจัดเจน ‘เกม’
##เกม…สมานฉันท์
"ฟุตบอลเป็นเกมที่ต้องบอกว่า ทำให้คนดีใจด้วยกัน เสียใจด้วยกัน ร่วมกันแสดงความดีใจที่ทีมชนะ และร่วมกันปลอบใจเมื่อทีมแพ้หรือเสมอ มันหล่อหลอมผู้คน หรือกลุ่มที่สนับสนุนทีมแต่ละทีม ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีฐานะ เพศ วัย นี่คือฟุตบอล
“ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นสปิริตของคนที่รักฟุตบอล จะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการตัดสินและการแข่งขันได้ การดำรงชีวิตอยู่ในสังคมก็เช่นกัน จะทำให้สังคมมีความปรองดอง สมานฉันท์ และมีความสงบ ต้องมีการยอมรับกับผลในการกระทำที่เกิดขึ้น แม้จะชอบใจหรือไม่ชอบใจก็ตาม เพื่อไม่ให้มีความแตกแยกในบ้านเมือง" เสียงบอกกล่าวเป็นการย้ำความเชี่ยวชาญ ‘เกม’ ของเขาอีกครั้ง
(ตัวเอน)คุณเนวิน...เป็นผู้ทำให้เกิดกระแสฟุตบอลฟีเวอร์ ในขณะนี้??
"ผมต้องใช้คำว่าเห็นโอกาสมากกว่า โอกาสเป็นคำที่ยิ่งใหญ่และมีค่ากับผู้คนในสังคมมาก โดยเฉพาะเด็กๆ หรือคนที่อยู่ในชนบทซึ่งมีโอกาสน้อยหรือแทบไม่มีเลย คนเหล่านี้...เขาต้องการโอกาส สมัยที่ผมอยู่ต่างจังหวัดและไปเรียนในกรุงเทพฯ ผมก็มีโอกาสมากกว่าเพื่อนๆ ที่เป็นลูกชาวบ้านในต่างจังหวัด แต่ แม้เราจะมีโอกาสขนาดนั้น เรายังคิดว่าเรามีโอกาสน้อย มาวันนี้มีโอกาสได้ส่งเสริมฟุตบอล ต้องยอมรับว่าในอนาคต ฟุตบอลจะเป็นอาชีพหนึ่งที่มั่นคงของเยาวชนไทย"
##ไม่เชื่อว่า…บอลไทยจะไปบอลโลกใน 5 ปีนี้
ในอดีตของจังหวัดบุรีรัมย์ นักมวยอาชีพบางรายเคยเป็นต้นแบบให้เยาวชนของจังหวัดมาแล้ว เมื่อบางรายสามารถมุมานะ จนสร้างเนื้อสร้างตัวได้ มีที่นาเป็นของตัวเองและไม่มีหนี้สิน อาทิ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ และสามกอ เป็นต้น
"เขาสามารถเป็นผู้นำของสังคมเล็กๆ ในบ้านของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมเลยมองว่าฟุตบอลเป็นอะไรที่...มากกว่า เพราะไม่ได้อยู่แค่ในประเทศไทย แต่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ถ้าเราสร้างโอกาสให้กับเด็กในต่างจังหวัดได้ มีแบบอย่างที่ดี ทำให้เขาเกิดความเชื่อมั่นว่าฟุตบอลก็เป็นอาชีพได้ ผมเชื่อว่าวงการฟุตบอลในประเทศไทย จะพัฒนาแบบก้าวกระโดด
“วันที่ผมเป็นเด็ก จำได้ว่าไปดูบอลที่สนามศุภชลาศัย จะเป็นคิงส์คัพหรืออะไรก็แล้วแต่ จะต้องเห็นไทยชิงชนะเลิศกับเกาหลีใต้หรืออิหร่านเสมอ เพราะไทยเป็นหนึ่งในเจ้าแห่งเอเชีย แต่มาวันนี้ในอาเซียน เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เราจะเป็นเจ้าอาเซียนได้หรือเปล่า ผมเลยเริ่มมาทำบอลอาชีพ เพราะเป็นสิ่งเดียวในชีวิต ที่ใฝ่ฝันและตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาสก็จะทำ (เสียงหนักแน่น)”
(ตัวเอน)มีกระแสข่าววิจารณ์กันไม่น้อย ว่าการที่คุณเนวินทำทีมฟุตบอลครั้งนี้ เพื่อหวังตำแหน่งในสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
"ผมไม่ต้องการตำแหน่งใดๆ ในสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (เสียงเข้ม) ไม่ต้องการตำแหน่งในฟีฟ่าหรือตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น แต่ผมต้องการเป็นเจ้าของสโมสร ได้ทำทีมฟุตบอลดีๆ ให้คนไทยดู ให้แฟนบอลดู และสร้างโอกาสให้เด็กไทยได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ฉะนั้น เป้าหมายในชีวิตคืออยากเห็นเด็กไทยไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ซีเรียอาร์ หรือบุนเดสลีกา จะไม่เคยได้ยินคำพูดของผมว่า...ทำฟุตบอลไทยไปบอลโลก เพราะมันเป็นไปไม่ได้” เขาเอ่ยราวจะฝากบอกถึงหลายคน
"ผมว่าหลังจากนี้อีก 5 ปี ค่อยมาพูดกันใหม่ว่า จะใช้เวลาอีกกี่ปีเพื่อให้ฟุตบอลไทยไปบอลโลก แต่ถ้าจากนี้ไปอีก 5 ปี...อย่าหวังแล้วก็อย่าฝัน
“ที่ผมพูดแบบนี้ เพราะทีมชาติที่จะไปรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 32 ทีม ต้องประกอบด้วยนักฟุตบอลที่เล่นในลีกอาชีพชั้นนำ หรือระดับโลกไม่น้อยกว่า 20 คน วันนี้อย่าว่าแต่ลีกชั้นนำของโลกเลย แค่ K League หรือ J League เด็กไทยหรือทีมชาติไทย ยังไปเล่นไม่ได้เลย ขนาด Championship ของอังกฤษ เราก็ยังไปไม่ถึง ส่วนที่ญี่ปุ่นและเกาหลีเขาไปบอลโลกได้ ไปดูซิว่า เขามีนักฟุตบอลไปเล่นในพรีเมียร์ลีกกี่คน อิตาลีซีรีอาร์กี่คน ลาลีกากี่คน หรือว่าเยอรมันฝรั่งเศสกี่คน แต่...ไทยยังไม่มี” ประโยคสุดท้ายของเขาเหมือนเสียงจะแผ่วหายไปในลำคอ
“ความสุขของชีวิตผม คือได้เห็นเด็กไทยลงไปยืนอยู่ในพรีเมียร์ลีก จะทีมเล็กหรือทีมใหญ่ไม่เป็นไร เราจะเห็นว่า เกาหลีเริ่มจากนักเตะพาร์ค จีซุง ญี่ปุ่นเริ่มจากนากาตะ, นาคาปุระ พอคิดได้แบบนี้ ผมเลยทำสนามฟุตบอลและทำสโมสรดีกว่า"
## ขอเลือกอยู่กับคนที่รักเรื่องเดียวกัน
อาจจะด้วยคุ้นตากับคุณเนวินในฐานะนักการเมืองมาเนิ่นนาน วันหนึ่งเมื่อรู้จักเขาในฐานะประธานทีมปราสาทสายฟ้า เสียงเล่าลือจึงอดไม่ได้ว่า...ฤๅเป็นเพียงกิจกรรมคั่นเวลาของเขา ระหว่างอยู่ในช่วงเว้นวรรคทางการเมือง
"ผมทำฟุตบอลเพราะ...เป็นสิ่งที่ผมจะอยู่กับมันไปในชีวิตนี้ ผมจะอยู่กับสโมสรของผม ผมจะอยู่กับแฟนบอลที่รักสโมสรเดียวกันกับผม
“สิ่งที่ผมทำคือ I-mobile Stadium ซึ่งผมใช้เวลาไม่ถึงปี ผมก็ทำให้สโมสรบุรีรัมย์-พีอีเอ ขึ้นมาติดอันดับของไทยพรีเมียร์ลีกได้ ผมทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้จักบุรีรัมย์-พีอีเอ สนใจว่าบุรีรัมย์-พีอีเอเป็นอย่างไร
“บุรีรัมย์-พีอีเอ ไม่ได้เป็นเพียงทีมฟุตบอลหนึ่งทีม แต่คนที่ติดตาม จะตามดูกองเชียร์ดูการแข่งขัน แล้วดูความคืบหน้าของผู้คนในสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ ทุกวันนี้ฟุตบอลมาเปลี่ยนชีวิตคนบุรีรัมย์เกือบหมด เช้าวันแข่งขัน เราจะเห็นทุกคนใส่เสื้อสโมสร นั่งกินกาแฟ กินก๋วยเตี๋ยว กินข้าว หลังฟุตบอลเลิก ถ้าบอลชนะหรือเสมอ เมืองทั้งเมืองหลังการแข่งขัน ทุกคนจะไปฉลองกันในตลาด ในร้านอาหาร ดีใจด้วยกันฉลองด้วยกัน” เขาเล่าอย่างภาคภูมิใจและชวนให้เห็นภาพ
(ตัวเอน)มีวันฉลอง แล้วมีวันโศกบ้างไหม
"บอลที่แข่งในบ้านเรายังไม่เคยแพ้ แค่เสมอ แฟนบอลก็ปลอบใจกันแล้ว จะขาดใจตายแล้ว สิ่งเหล่านี้เพิ่งเกิดขึ้นในบุรีรัมย์ในช่วงเวลาไม่ถึงปีมานี่เอง วันนี้บุรีรัมย์ปลอดการเมือง ในพื้นที่ไม่มีประเด็นการเมือง ไม่มีใครเอาการเมืองมายุ่งเลย มันเป็นอะไรที่เป็นความสุข (น้ำเสียงเป็นสุข) ขนาดเด็กเล็กๆ หรือวัยรุ่น 14-15 กระโดดกอดอดีตนักการเมืองอย่างผม (หัวเราะ) ด้วยความดีใจ ที่ฟุตบอลชนะหรือผู้เล่นยิงประตูได้ มันเป็นอะไรที่สื่อกันได้ สัมผัสกันได้ เรารักกันได้โดยที่ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง มีแต่คำว่าชัยชนะ ทุกคนมาเพื่อบุรีรัมย์”
ทุ่มเทถึงเพียงนี้ องค์ประกอบอื่นสไตล์ ‘เนวิน’ จึงตามมา อาทิ สนามฟุตบอล และแคมป์เก็บตัว ที่มีมาตรฐานทัดเทียมต่างประเทศ ซึ่งต่างต้องใช้เม็ดเงินมากมาย
"วันนี้ กลายเป็นว่าเด็กบุรีรัมย์รักฟุตบอล ผูกพันกับฟุตบอล ความใฝ่ฝันของพวกเขาคือวันหนึ่งเขาอยากลงมาเตะในสนามไอโมบาย สเตเดี้ยม ให้ได้ มันเป็นอะไรที่สุดยอดของการเป็นนักฟุตบอล (ยิ้ม)
“สมัยที่ผมเป็นเด็กนักเรียนที่สวนกุหลาบ เล่นฟุตบอลกรมพละ ฟุตบอล กทม. รุ่นเล็ก ความใฝ่ฝันของผมคือ ขอให้ได้ลงไปเล่นในสนามศุภชลาศัย เป็นอะไรที่ภูมิใจมากในชีวิต เหมือนกัน ...วันนี้มีเด็กเดินมาบอกผมว่า ถ้าบอลนักเรียนชิงชนะเลิศจะขอมาเตะที่ไอโมบายได้ไหม ผมนึกในใจ...ขอโทษนะ คิดเหมือนกูเลย (หัวเราะ) ผมก็เลยคิดว่าเราต้องให้โอกาสเขา
“เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า สองข้างทางที่มาสนาม จะเห็นการมีส่วนร่วมของชุมชน ร้านค้าช่วยกันติดแบนเนอร์เชียร์กัน โดยไม่มีใครบังคับ เพราะความที่เขาเป็นคนบุรีรัมย์ เขาจึงแสดงออกด้วยความรัก" จากที่เราเห็นเป็นเช่นที่เขาพูด น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว เมื่อเห็นภาพทีมปราสาทสายฟ้าอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ทั่วเมือง
/##ทุ่ม 100 ล้าน สำหรับแคมป์ฟุตบอลแห่งใหม่
สิ่งที่คุณเนวินภูมิใจเสนออีกอย่างหนึ่งคือ แคมป์เก็บตัวทีมฟุตบอลอาชีพ มาตรฐานเดียวกับต่างประเทศ ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 100 ล้านบาท ส่วนแคมป์เก่าผันไปใช้รองรับทีมฟุตบอลทีมเยือน นอกจากนั้นสิ่งที่กำลังก่อสร้างตามมาติดๆ คือ สนามฟุตบอลแห่งใหม่ในพื้นที่ 150 ไร่ มูลค่าการก่อสร้างอีกร่วม 100 ล้านบาท และเตรียมจับมือกับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งอยู่ในมือมิ่งมิตรอย่างคุณวิชัย เตรียมร่วมกันทำอะคาเดมี่เพื่อปั้นนักเตะรุ่นใหม่
"ผมกำลังก่อสร้างสเตเดี้ยมแห่งใหม่ จุคนดูได้ 24,000 คน คาดว่าจะต้องเสร็จภายในปีหน้า และถ้าเป็นไปได้เราจะขอเป็นเจ้าภาพจัดคิงส์คัพในปีหน้าด้วย (น้ำเสียงหมายมั่น) สนามฟุตบอลแห่งนี้ยังมีสนามซ้อมอีกสองสนามที่ได้มาตรฐาน พร้อมสนามเล็กๆ เป็นซอคเกอร์สตีล เพื่อให้เด็กๆ ได้เล่นในวันหยุดหรือตอนเย็น ช่วงที่บุรีรัมย์-พีอีเอ และบุรีรัมย์ เอฟซี มาซ้อมกัน ก็จะมีแฟนคลับมายืนดู จะขอถ่ายรูปขอลายเซ็นก็ว่ากันไป ส่วนเด็กคนไหนชอบเล่นฟุตบอล เราก็มีสนามเล็กๆ ไว้ให้เล่น
"ผมตั้งใจที่จะทำอะคาเดมี แต่ปีนี้ระบบยังไม่สมบูรณ์พอ ทำได้เพียงแค่ เอาเด็กจำนวนหนึ่งในพื้นที่ซึ่งสมัครใจและเล่นได้ มาอยู่ในทีมเยาวชน และเริ่มสร้างเขา เป้าหมายคือเราต้องการเป็นอะคาเดมี เป็นโรงเรียนฟุตบอล ให้เด็กได้เรียนหนังสือกับเรียนฟุตบอล วันนี้เด็กของเรากินเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยงซ้อม เรียนหนังสือฟรี มีทุนเรียนจากสโมสร คุณมีหน้าที่เรียนกับเล่นฟุตบอลเท่านั้น นี่เป็นความฝันของผมในวัยเด็ก
“ผมจำได้ว่า มีเพื่อนสวนกุหลาบฯ ไปติดทีมเยาวชนของแบงก์กรุงเทพ สมัยก่อนมีทีมราชประชาและทีมแบงก์กรุงเทพ เด็กของแบงก์กรุงเทพ วันเสาร์อาทิตย์จะมีรถมารับไปซ้อมที่สนามบางนา แล้วก็มีเบี้ยเลี้ยง ใครติดแบงก์กรุงเทพจะโก้มาก (เน้นเสียง) จำได้ว่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 10 หรือ 15 บาท แต่มันโก้มาก (ยิ้ม)"
##นักฟุตบอล ‘เนวิน’ ค่าตัว 3 ล้าน กิน-อยู่-เรียน ฟรี
ปลุกปั้นมาขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจ หากนักเตะทีมบุรีรัมย์-พีอีเอ จะมีค่าตัว 3 ล้านบาท เงินเดือน 3-8 หมื่นบาทหรือสูงกว่า เบี้ยเลี้ยงซ้อมวันละ 500 บาท พร้อมทุนการศึกษาจนจบปริญญาตรี-โท ขณะที่นักฟุตบอลทีมชาติมีเงินเดือน 150,000 บาท
"ผมใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่ไม่มีวาสนา เราก็เลยคิดว่า อะไรที่เราเคยขาดไปหรือไม่มีโอกาสในวัยเด็ก เราต้องสร้างให้กับเด็กบุรีรัมย์ เด็กในภาคอีสาน และเด็กในประเทศไทย
“วันนี้ต้องบอกว่า น้องๆ ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ถ้าคิดว่าคุณแน่จริง มีพรสวรรค์ เดินมาที่สโมสร เพื่อมาคัดตัว ถ้าคัดผ่านก็จะได้รับทุนเรียน อยู่ฟรี กินฟรี รับรองว่ากินดีอยู่ดีกว่าที่บ้านคุณแน่นอน เริ่มต้นสู่วิถีของการพัฒนา ผมเป็นคนเชื่อเรื่องพรแสวง
“ต้องยอมรับว่า พัฒนาการของนักฟุตบอลในระดับชาติของเราดร็อปลง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีความก้าวหน้าขึ้น เพราะเราเอาพรสวรรค์เป็นหลัก เด็กเก่งที่มีพรสวรรค์อาจติดทีมชาติ ส่วนผม ผมให้ค่าของพรสวรรค์ 30 เปอร์เซ็นต์ พรแสวง 70 เปอร์เซ็นต์ ถ้าบอลไทยจะเป็นเจ้าในเอเชีย เราต้องหันกลับมาเน้นเรื่องพรแสวงมากๆ มีวินัย มีระบบการฝึกซ้อมที่ถูกต้อง และมีความตั้งใจสูง ถ้าทำได้เช่นนั้น ผมเชื่อว่าเราจะกลับมาได้
"เดวิด เบ็คแฮม เตะฟรีคิกวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 500 ลูก นั่นคือพรแสวงไม่ใช่พรสวรรค์ แต่คนไปเข้าใจว่านั่นคือพรสวรรค์ พรสวรรค์คือเตะฟุตบอลเป็น เตะฟุตบอลดี ส่วนความแม่นยำ น้ำหนักบอล...เกิดขึ้นจากพรแสวงที่เขาพยายามเตะ นักฟุตบอลระดับโลกทุกคนมีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิด แต่ว่ามาเติมพรแสวงอีก 70 เปอร์เซ็นต์ เขาก็ประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นเด็กไทย ไม่มีทางเลยที่จะไปสู่ชั้นนำระดับโลกได้ ถ้าไม่เน้นเรื่องพรแสวง วันนี้เราจะเห็นบอลนักเรียนอายุ 12 ปี 14 ปี 16 ปี 18 ปี ไทยเก่งมาก แต่พอ 20 ปีไปแล้วแพ้เขาหมด เพราะเด็กถูกเน้นในเรื่องพรสวรรค์ แล้วก็ลืมตัว ไม่รักษาตัว ไม่มีวินัย ไม่ไขว่คว้าเพิ่มเติม พอขึ้นไประดับชาติก็แพ้เขา
“ทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ หรือบุรีรัมย์ เอฟซี ที่ผมเป็นที่ปรึกษาอยู่ เราเน้นเรื่องวินัยและพรแสวงเป็นหลัก นักฟุตบอลที่เดินเข้ามาอยู่สโมสรนี้ คุณต้องมีวินัย ไม่ว่าคุณจะเก่งมาจากไหน ต้องรับกติกาของสโมสรให้ได้ แต่ถ้าไม่มีวินัย ไม่ทำตามกติกาของสโมสร...ก็ไม่เอา เพราะเราจะปล่อยคุณแค่...หลังวันแข่งสองคืนสองวัน หลังจากนั้นคุณต้องเข้าแคมป์เพื่อฝึกซ้อมตามโปรแกรม ใครรับเงื่อนไขตรงนี้ไม่ได้ สโมสรก็ไม่เอา เพราะตรงนี้มันเป็นพื้นฐาน" เขาเชื่อว่าถ้านักกีฬาไม่มีวินัย อนาคตไปได้ไม่ไกลแน่นอน
##ความต่างของ…เกม
สันทัดจัดเจนใน ‘เกม’ จนแยกแยะความต่างระหว่างสองเกมในชีวิตได้จะแจ้ง
"เรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของเงื่อนไข การชิงไหวชิงพริบ คนในแวดวงการเมือง กับคนในแวดวงกีฬาต่างกัน เพราะฟุตบอลเป็นการบริหารที่ใช้หัวใจอย่างเดียว ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่มีชิงไหวชิงพริบ เป็นเรื่องของการใช้ความสามารถล้วนๆ ตรงไปตรงมา คุณบริหารให้ทีมเล่นเก่งเล่นดี ทีมชนะ แฟนบอลก็จะชอบมีแฟนบอลเยอะ
"แมตซ์ก่อนแข่ง เราส่งคนไปสเกาต์ (สอดแนม) คู่ต่อสู้ เพื่อจับแท็กติกการซ้อม เน้นการซ้อม เพื่อให้สู้กับรูปแบบของคู่ต่อสู้ได้ ทำให้ทีมชนะ ทำให้คนมีความสุข...แค่นั้นเอง ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ แต่การเมือง หนึ่งบวกหนึ่งเป็นเจ็ดก็ได้ เป็นสิบสองก็ได้ ส่วนฟุตบอล หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง คือถ้าทำประตูได้มากกว่าก็เป็นผู้ชนะ เล่นดีกว่าก็ชนะ...แค่นั้นเอง
“คนที่อยู่แวดวงกีฬาไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าทีมชนะ เขาไม่ได้อยากได้เงินได้ทอง ได้ตำแหน่ง ได้ชื่อเสียง คนที่มาเชียร์บอลเป็นแฟนบอล เพราะอยากเห็นทีมชนะเท่านั้นเอง ฉะนั้นมันแตกต่างกัน มันเป็นโลกของความสุข เดินแล้วไม่ต้องระวังตัวหรือระวังข้างหลัง ระวังแต่ลูกอย่างเดียวก็แล้วกัน" ประธานสโมสรฯ กล่าวอย่างอารมณ์ดี
## เกม-ฟอกเงิน-ชุบตัว??
ระหว่างให้สัมภาษณ์อยู่นั้น คุณเนวินขอเบรคร่วม 20 นาที เพื่อรับโทรศัพท์จากท่านประธานใหญ่ ชัย ชิดชอบ ก่อนว่ากันต่อด้วยคำวิพากษ์ข้อหาแรง อาทิ การทำทีมฟุตบอลของนักการเมืองและผู้ใกล้ชิด คือแหล่งฟอกเงิน หรือเพื่อใช้เป็นแหล่งชุบตัวสร้างภาพลักษณ์ใหม่??
"เอาเป็นว่า ผมอยากบอกว่า คงไม่มีมนุษย์คนไหนที่มาทำอะไรด้วยใจที่ทุ่มเทแล้วลงทุนมากเท่าผม ประธานสโมสรฟุตบอลทั้งประเทศ คงไม่มีใครที่จะอยู่ในสนาม อยู่กับนักเตะได้มากเท่าผม ผมไม่แน่ใจว่าประธานสโมสร ใน 16 ทีมไทยลีก เอาเวลาที่อยู่กับนักฟุตบอลในสนามฟุตบอล รวมกันแล้วจะมากเท่าผมคนเดียวหรือเปล่า เพราะเวลาที่เด็กซ้อม ผมก็อยู่ในสนามซ้อมกับเด็กตลอด ผมอยู่กับเด็กๆ เกือบทุกวัน หลังบ่ายสามโมงไปแล้ว ผมไม่อยากนัดใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยู่บุรีรัมย์ หรือกรุงเทพฯ เพราะเป็นเวลาของผมกับฟุตบอล
"นอกเหนือกว่านี้คือต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ จะเห็นว่า เช้ามาผมก็เดินดูสนาม ดูความเรียบร้อยของวันแข่งด้วยตัวเอง เด็กซ้อมแล้วประชุมแมตซ์ ผมก็ไปประชุมร่วมกับโค้ช เวลาเด็กซ้อม ผมจะใส่เสื้อสต๊าฟซ้อมกับเด็ก ช่วยแนะนำเด็ก แนะนำโค้ช ไม่ใช่เพราะตัวผมเป็นคนเก่งเรื่องฟุตบอล แต่เพราะผมเห็นมามาก ดูมามาก โดยใช้มุมมองของตัวเอง ผมจะอยู่กับเด็กจนเลิกซ้อม กินข้าวเสร็จ พอเด็กเข้าแค้มป์นอน ผมก็กลับบ้าน"
หากไม่ได้ยินจากปากเขา อาจมีคำถามว่า...เป็นไปได้อย่างไร? แต่ทั้งคำบอกเล่าของคุณเนวินและคนใกล้ชิด การนัดหมายกับเขา อาจเป็นเรื่องยาก มิใช่เป็นเพราะ...คิวทอง แต่เป็นเพราะเจ้าตัวไม่รับนัดใคร ด้วยว่านัดกับการสร้างทีมฟุตบอลไปเสียแล้ว
## สามทหารเสือ เนวิน-วิชัย-อนุทิน
แม้คุณเนวินจะเป็นรายสุดท้ายระหว่างเนวิน ชิดชอบ วิชัย รักศรีอักษร และอนุทิน ชาญวีรกูล ที่มาเป็นแขกใน WhO? แต่บรรยากาศการสัมภาษณ์ทุกครั้ง มีเขาเป็นหนึ่งในหัวข้อสนทนาเสมอ ด้วยการยกย่อง ให้เกียรติ และชื่นชมมิตรภาพระหว่างกันอย่างแน่นแฟ้น ยิ่งเมื่อคุณวิชัยประกาศตัวเป็นเจ้าของทีมสโมสรในอังกฤษ อย่างเลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้กิจกรรมระหว่างกันเคียงข้างกันไปอย่างแยกไม่ออก
"เราสองคน (กับคุณวิชัย) สนิทกันมาก มันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัว ภรรยาผม ลูกผม ภรรยาพี่วิชัย ลูกพี่วิชัย เราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน เป็นมากกว่าเพื่อน ไปเที่ยวด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกันด้วยเรื่องธุรกิจ ต่างคนต่างทำ แต่ว่าเรารักกัน มีอะไรก็ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน" เขาย้ำเสียงหนักแน่นอีกครั้ง
"ส่วนครอบครัวของอนุทินกับครอบครัวผม ก็เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน คนที่ใกล้ชิดผม เราคบกันไม่ใช่ตัวบุคคลต่อตัวบุคคล แต่เราคบกันไปถึงครอบครัว ลูกเต้ากินข้าวด้วยกัน ลูกเสี่ยหนูก็เรียนโรงเรียนเดียวกันกับลูกชายผม กลับจากโรงเรียนพร้อมกัน ก็มานั่งกินข้าวด้วยกัน เราเป็นมากกว่าคบกันแค่งานทางการเมือง หรือประโยชน์ทางการค้า...ไม่มีแน่นอน"
##นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ??
หากพลิกปูมทางการเมืองกลับไป เวลาอีกเพียง 2 ปี คุณเนวินก็จะสิ้นสุดการเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี ก้าวต่อไปของเขา...
"ผมตั้งใจทำฟุตบอล 70 เปอร์เซ็นต์ การเมืองไม่คิด คิดแต่เรื่องบ้านเมือง 30 เปอร์เซ็นต์ คือผมไม่กลับไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ อีกแล้ว ผมไม่เอาแล้ว ให้จำคำผมไว้ก็แล้วกัน ไอ้ใครที่คิดว่า...ผมจะกลับไปเป็นสส.หรือเป็นรัฐมนตรี...ลืมไปเถอะ ผมไม่กลับไปหรอก เพราะโลกของฟุตบอล เป็นโลกที่เป็นความสุขของผม ผมได้อยู่กับคนที่รักผม โดยไม่มีผลประโยชน์อื่นใดมาเกี่ยวข้อง มีความสุขอยู่กับฟุตบอลที่ผมรัก
"ผมทำโดยที่ไม่คิดว่ามันจะได้อะไรกลับมา มีอย่างเดียวคือทีมต้องชนะ ต้องเป็นแชมป์เท่านั้น...ที่เป็นเป้าหมาย วันนี้บ้านเมืองมันถึงเวลาแล้วที่ต้องให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเพื่อเติบโต ให้คนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำงาน ต้องให้โอกาสเขา
“หลักคิดของการเมืองกับกีฬา ก็ไม่ต่างกันหรอก ต้องให้โอกาสคนรุ่นใหม่ตลอดเวลา ชีวิตนี้เล่นการเมืองมากว่าครึ่งชีวิต มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีมาร่วม 10 ปี มันเกินพอแล้ว ผมว่าพอได้แล้ว บ้านเมืองมีปัญหาเพราะนักการเมืองบ้านเราไม่รู้จักคำว่า...พอ ไม่รู้จักคำว่า...หยุด ไม่รู้จักคำว่า...ให้โอกาส ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองเราเลยเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นสำหรับผม...พอแล้ว
“ถ้าถามว่าจะไม่ยุ่งกับการเมืองโดยเด็ดขาดเลยหรือ...ไม่ได้หรอก แต่จะเป็นคนช่วยเหลือสนับสนุนคนที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ให้โอกาสเขา สนับสนุนเขา เหมือนที่ผมให้การสนับสนุนทีมฟุตบอลนี่แหละครับ"
ข่าวเรื่องพรรคภูมิใจไทย “รุก” เพื่อขอพื้นที่คืนจากพรรคการเมืองที่เคยครองพื้นที่อยู่เดิม ในภาคเหนือและอีสาน จนร่ำลือกันถึงว่า อาจจะเป็น...เนวิน คนนี้ละมัง ที่จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ของประเทศไทย
"ไม่หรอกครับ ไม่มีโอกาสหรอกครับ อย่าไปคิด โลกวันนี้ ประเทศไทยวันนี้ คนอย่างผมไม่มีความสามารถพอที่จะไปรับผิดชอบบริหารบ้านเมืองได้หรอก ผมประมาณตัวเอง ผมรู้ตัวผมเอง เอาเป็นว่าในยามที่บ้านเมืองมีปัญหาอะไรที่ผมจะช่วยได้ เพื่อให้บ้านเมืองหมดปัญหา เป็นมือเป็นไม้เป็นคนสนับสนุนให้บ้านเมืองไปได้ ผมยินดีและเต็มใจเท่าที่ผมจะทำได้ แต่ไอ้เรื่องที่จะให้ผมกลับไปเล่นการเมืองเหมือนเมื่อก่อน...ลืมไปได้เลย
ขอให้นักการเมืองทั้งหลาย ที่ประสงค์จะเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ได้อยู่อย่างเป็นสุข และสบายใจได้ว่า ผมไม่ประสงค์จะไปรับตำแหน่งใดๆ ในคณะรัฐบาล" ประธานสโมสรฯ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง และน้ำเสียงหนักแน่น
##นิรโทษกรรม และการลอบสังหาร
วันนี้ แม้คุณเนวินจะออกตัวว่า ไม่ขอพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่คำตัดพ้อของเขายังจดจำกันได้
"พวกผมเป็นคน เป็นมนุษย์ ไม่ใช่ทาส อยากบอกกลุ่มผู้ชุมนุม ผมเคยตกเป็นเครื่องมือมาแล้ว ผมเป็นแค่หมาล่าเนื้อ วันไหนผมเห็นต่าง วันไหนผมไม่ทำตามใจ ผมก็เป็นได้แค่คนเนรคุณ คนหักหลัง สำหรับท่านนายกฯ ทักษิณ นี่คือชีวิตพวกผม ผมอยากให้ท่านเอาชีวิตพวกผมไปเป็นอุทาหรณ์"
ข่าวว่าเพียงสองวัน หลังจากที่่ WhO? ประชิดติดขอบสนามกับ ‘กุนซือ’ คนสำคัญของทีมปราสาทสายฟ้า ลูกพรรคภูมิใจไทยก็ถูกเรียกประชุมด่วน สำหรับมิชชั่นการทวงพื้นที่คืน พร้อมๆ กับที่หนังสือ “ทำไมต้องนิรโทษกรรม” 3 แสนเล่มถูกแจกจ่ายไปทั่วประเทศ เป้าหมายคือล่า 1 แสนรายชื่อ ดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสภาภายใน 60 วัน
หากความพยายามของเขาสัมฤทธิ์ผล พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะครอบคลุมการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 - เมษายน 2552 ส่วนการชุมนุมทางการเมืองในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 จะเป็นอีกหนึ่งฉบับ โดยการรวบรวมรายชื่อ 1 แสนรายดังกล่าว
เมื่อเขา...ขยับ จึงมีคำถามว่า...จะมาไม้ไหน เพราะตัวเขาเองก็ยังอยู่ในข่าย ‘ติดคุกทางการเมือง’ หลายฝ่ายจึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นไปได้ที่จะเป็นการเอื้อประโยชน์แก่นักการเมืองบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 ที่ยังอยู่ระหว่างถูกตัดสิทธิทางการเมือง
"การนิรโทษกรรมครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 เพราะประเด็นของผม คือการนิรโทษกรรมให้ผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิดตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกรณีเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง ควรจะได้รับการเยียวยา โดยอยากให้แยกพี่น้องประชาชนที่มีเจตนาบริสุทธิ์ออกไปเสียจากวงนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือประชาชน ราชประสงค์หรือสุวรรณภูมิ สำหรับผู้ที่มีเจตนาบริสุทธิ์ในการชุมนุม และผู้ที่ต้องทำหน้าที่ ส่วนเรื่องจาบจ้วงสถาบัน ต้องดำเนินการอยู่แล้ว จะนิรโทษกรรมไม่ได้"
โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 23 กันยายน 2553 มีบางประโยคของเขาดังนี้ “...ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอความเมตตาจากนักการเมือง หรือรอให้นักการเมืองตกลงกันได้เสียก่อน ทำไมต้องรอให้นักการเมืองต่อรองให้ตัวเองพ้นผิด เมื่อความปรองดองของนักการเมืองเกิดขึ้นไม่ได้ คนทั้งชาติจึงไม่จำเป็นต้องรอนักการเมือง เพราะยิ่งนานวันยิ่งทำให้ประเทศเสียหาย”
ส่วนที่แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวกับ WhO? คือการจะเห็นด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องของจิตสำนึกว่า อยากเห็นความปรองดองความสามัคคีเกิดขึ้นหรือไม่
"ผมยังยืนยันว่า คนส่วนน้อยที่จะเป็นปัญหา เป็นอุปสรรค ในการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของบ้านเมือง ซึ่งถ้าไม่มีมวลชนสนับสนุน เขาก็ไม่มีอำนาจ แต่วันนี้เรากลับไปคิดว่า การแก้ปัญหาให้คนส่วนใหญ่ จะทำให้คนส่วนน้อยหรือคนบางคนได้ประโยชน์...แล้วไม่ทำเลย ก็ทำให้คนบางคนฉวยโอกาสนี้ ที่จะสร้างแนวร่วมให้บ้านเมืองแตกแยกไปอีก ในส่วนของเรา คิดว่าวิธีดังกล่าว จะทำให้คนไทยกลับมารักกันได้เหมือนเดิม รู้จักคำว่า อโหสิ ให้อภัยกันเหมือนเดิม"
ส่วนกระแสข่าว เรื่องการลอบสังหาร คุณเนวินบอกเพียงสั้นๆ ว่า ทราบข่าวที่ว่าแล้ว แต่ไม่ได้กังวล สำหรับเขา...อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
“ทุกวันนี้ก็ยังใช้ชีวิตปกติ คุณดูซิว่าผมมีตำรวจมาติดตามผมมากมายที่ไหน" ส่วนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ ที่บริษัทของ ‘พ่อเลี้ยงคะแนน สุภา’ บิดาของภรรยา เขาขอไม่แสดงความคิดเห็น โดยแนะนำให้สอบถามจากฝ่ายความมั่นคงดีกว่า
เสียงนกหวีดดังมาแต่ไกล เป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะเริ่ม ‘เกม’ อีกครั้ง WhO? จึงต้องถอย เพื่อปล่อยให้เนวิน ชิดชอบ ใช้เวลานับจากนี้กับ ‘เกม’ ของเขาต่อไป
//////
"แม่ทัพกองเชียร์"
กรุณา ชิดชอบ หรือ "ซ้อต่าย" ตามคำเรียกขานของชาวบุรีรัมย์ อดีต สส.บุรีรัมย์หลายสมัย เป็นบุตรสาวคนโตของ พ่อเลี้ยงคะแนน สุภา เจ้าของ บริษัท เชียงใหม่ คอนสตรัคชั่น จำกัด เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับสัมปทานก่อสร้างในพื้นที่ภาคเหนือ จากส่วนราชการต่างๆ มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้าน
ปี 2537 เธอสมรสกับเนวิน ชิดชอบ และเมื่อมีการแถลงทรัพย์สินรัฐมนตรี ในปี 2547 "ซ้อต่าย" ติดอันดับ 2 ของคู่สมรสในคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือครองที่ดินมากที่สุด รองจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ยอดทรัพย์สินที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.คือ 727,449,186 บาทและปี 2549 มีทรัพย์สินรวม 752,405,499 บาท
ปัจจุบันคุณกรุณาเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ทำงานตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ ส่วนเสาร์อาทิตย์นอกจากดูแล ‘พี่โอ้ง’ หรือบิ๊กเป็ด สามี-เนวิน ชิดชอบ แล้ว เธอทำหน้าที่ประธานสโมสรบุรีรัมย์ เอฟซี โดยได้รับฉายาว่า ''ลาวาเพลิงตัวแม่'' เป็นฉายาที่กองเชียร์ชาวบุรีรัมย์ตั้งให้ หลังจากเห็นเธอลงมาลุยเป็นแม่ทัพกองเชียร์อย่างเต็มตัว ซ้อต่ายสร้างวัฒนธรรมการเชียร์ให้มีสีสันและเร้าใจตลอดทั้งเกม เพื่อเป็นแรงหนุนให้กับนักเตะของตัวเองก้าวไปสู่ชัยชนะ
"ต่ายได้มาเป็นผู้นำกองเชียร์ ก็เหมือนได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน เชื่อไหมว่า ใครเดือดร้อนเมียออกลูกไม่ได้ ก็จะนึกถึงเรา (หัวเราะ) ต่ายรู้สึกว่าเราเป็นเหมือนญาติพี่น้องเขาไปแล้ว ต่ายกับพี่โอ้งทำตรงนี้ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น เราทำด้วยใจรัก ไม่ได้ทำเพื่อเงิน เราทำเพื่อต้องการให้คนหันมาดูกีฬาฟุตบอล โดยเฉพาะคนในจังหวัดบุรีรัมย์ อย่างต่ายเป็นประธานสโมสรบุรีรัมย์ เอฟซี พี่โอ้งก็จะมาช่วยดู เหมือนเป็นโค้ชให้ด้วย (หัวเราะ)
ทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ ไปแข่งที่ไหน กองเชียร์เราก็จะตามไปทุกแมตซ์ ครั้งหนึ่งใช้คนประมาณ 1,200 คน ทุกคนไปตัวเปล่าๆ ไปด้วยใจ เราก็จะมีค่ารถ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเข้าชม และได้รับเบี้ยเลี้ยงคนละ 3,000 บาทต่อแมตซ์ เรามีสปอนเซอร์สนับสนุนแมตช์ละ 6 ล้านบาท"
ข่าวคราวเรื่องแผนการลอบสังหารสามี รวมไปถึงมีมือมืดซัดระเบิดเอ็ม 79 ถล่มบริษัทก่อสร้างของบิดากลางเมืองเชียงใหม่ เป็นรอบที่ 3 "จริงๆ ไม่ได้กลัวอะไร เราก็ยังใช้ชีวิตกันปกติ คนที่จ้องจะทำเราก็คงเป็นอาชีพของเขา คุณพ่อเองก็เคยพูดเล่นๆ ว่า อย่ามาทำพ่อเลย อยากทำก็ไปทำคุณเนวินโน่น อย่ามายุ่งกับพ่อเลย (หัวเราะ) ต่ายกับพี่โอ้งและลูกก็ไม่ได้ระวังตัวอะไร"
อาจจะจริงของเธอ เพราะจำนวนประชาชนรอบตัวที่เห็น เป็นยิ่งกว่าเกราะกำบังอื่นใด จากการประชิดติดขอบสนามคราวนี้ จึงทำให้เราเห็นลีลาของ "ซ้อต่าย" ขึ้นไปวาดลวดลายผู้นำเชียร์อย่างสนุกสนาน
วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เนวิน ชิดชอบ เรื่องของ...เกม และข่าว...จองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ?!?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น