มเหสักข์ - สักสยามินทร์ สักไว้ในแผ่นดิน
โดย...ดร.กาญจนา สุทธิกุล
เดอะแพลนท์แมกกาซีนร่วมกับมูลนิธิพุทธสาวิกา โดยวัตรทรงธรรมกัลยาณี ได้ร่วมกันจัดทำโครงการปลูกกล้าสักสยามินทร์ขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริในโครงการรวมใจภักดิ์ปลูกมเหสักข์-สักสยามินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1.เพื่อสนองพระราชดำริในการอนุรักษ์และพัฒนาพันธุกรรมพืชของประเทศในโครงการรวมใจภักดิ์ ปลูกมเหสักข์-สักสยามินทร์ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุ 84 พรรษา
2. เพื่อร่วมกันปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่ป่าให้มากขึ้น เป็นการลดปัญหาภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่ง
3. เพื่อเพิ่มพื้นที่ซับน้ำตามธรรมชาติให้มากขึ้น เป็นการบรรเทาปัญหาอุทกภัยของประเทศอีกทางหนึ่ง
โครงการรวมใจภักดิ์ปลูกมเหสักข์ - สักสยามินทร์ฯ มีเป้าหมายเพื่อผลิตและกระจายต้นกล้า “มเหสักข์ - สักสยามินทร์” ให้ครบ 8.4 ล้านต้น ในเวลา 5 ปี โดยดำเนินการใน 7,255 ตำบล ตำบลละ 1,100 ต้น ทั่วประเทศรวม 7,255 ตำบล ใช้ต้นมเหสักข์รวม 7,980,500 ต้น ส่วนอีก 419,500 ต้น แจกจ่ายให้แก่องค์กรภายในและต่างประเทศ ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปร่วมกันปลูกระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ถึง 5 ธันวาคม 2558 ระยะเวลา 5 ปี
โครงการรวมใจภักดิ์ปลูกมเหสักข์ - สักสยามินทร์ ฯ เป็นการอนุรักษ์พันธุ์ต้นสักที่มีอายุยืนยาว ซึ่งมีขนาดลำต้นใหญ่ที่สุดในโลกและต้นสักที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกไว้ให้คงอยู่สืบไป
โครงการ รวมใจภักดิ์ปลูกมเหสักข์ - สักสยามินทร์ นอกจากจะดำเนินการเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษาแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้คนไทยเกิดจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรของชาติอย่างมีคุณธรรม การนำต้นสักเข้าไปปลูกในท้องถิ่นทั่วประเทศคือกุศโลบายที่จะนำมาซึ่งการเก็บข้อมูลว่าในแต่ละพื้นที่มีฐานทรัพยากรอะไรบ้าง และนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นเกิดความรู้สึกหวงแหนและเห็นคุณค่าของทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นถิ่น นำมาซึ่งการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอย่างยั่งยืนต่อไป โครงการปลูกมเหสักข์-สักสยามินทร์จึงไม่ใช่เป็นแค่เพียงโครงการปลูกป่าหรือช่วยลดการพังทลายของหน้าดินเท่านั้น แต่ยังมีความหมายลึกซึ้งในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชของประเทศและสิ่งมีชีวิตตั้งแต่ระดับใต้ทะเลจนถึงยอดดอย ให้เป็นแหล่งพันธุกรรมเพื่อประโยชน์ในแง่มุมต่างๆ เช่น เป็นแหล่งอาหาร ยารักษาโรค และเป็นแหล่งพลังงาน กับคนรุ่นหลังสืบไป โดยความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่าขอขอบคุณแฟนพันธุ์แท้ทั้งเกษตรกร ผู้สนับสนุน และสมาคมผู้ประกอบการพืชผักผลไม้ไทย ตลอดจนผู้บริจาคทุกท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามในที่นี้ ในการทำกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร่วมกันครั้งนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น