สุทธิคุณ กองทอง หนุ่ม

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

ดีเอ็มจีจัดเสวนา “ตื่นรู้ อยู่กับภัย” พร้อมแนะนำหนังสือ “อ่านก่อนถึงวันสิ้นโลก” กูรูชั้นนำตอบทุกคำถามภัยพิบัติและวันสิ้นโลก!






ดีเอ็มจีจัดเสวนา “ตื่นรู้ อยู่กับภัย” พร้อมแนะนำหนังสือ อ่านก่อนถึงวันสิ้นโลก

กูรูชั้นนำตอบทุกคำถามภัยพิบัติและวันสิ้นโลก!



สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ร่วมกับ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานเสวนาหัวข้อ “ตื่นรู้ อยู่กับภัย” พร้อมแนะนำหนังสือ อ่านก่อนถึงวันสิ้นโลก โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมแบ่งปันทรรศนะเกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทย รวมทั้งตอบคำถามที่คนไทยกำลังให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯ จะโดนน้ำท่วมอีกหรือไม่ เขื่อนจะพังไหม 'พายุสุริยะ' ขนาดใหญ่ที่สุดในรอบ ๕ ปี ที่กำลังมุ่งหน้ามายังโลก จะส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไร ตลอดจนกระแสวันสิ้นโลกในปี ๒๐๑๒ ที่กำลังแผ่ขยายความเชื่อและความสนใจไปในวงกว้าง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ทุกวันนี้มีคนตั้งคำถามมากมายว่าปี ค.ศ. ๒๐๑๒ จะเป็นสิ้นโลกจริงหรือ บ้างก็เชื่อว่าอาจมีความเป็นไปได้ บ้างก็เชื่อเพราะงมงายในคำทำนายที่นำมากล่าวอ้างต่างๆ บ้างก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่เรื่องจริง บ้างก็พยายามท้วงติงนำเหตุผลมาหักล้างว่า ในอดีตก็เคยมีคำทำนายเกี่ยวกับเรื่องวันสิ้นโลกผิดพลาดมาแล้ว แต่จากเหตุการณ์มหาภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นปีที่ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยต้องจารึกถึง “มหาอุทกภัย” ที่ร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆ ส่งผลให้หลายจังหวัดตั้งแต่ภาคเหนือ ไล่มาจนถึงภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร กลายเป็นเมืองบาดาล สร้างความเดือดร้อนลำบากอย่างสุดแสน ตามมาด้วยความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ก่อให้เกิดความทุกข์ทั้งกายและจิตใจอย่างประเมินค่ามิได้ ตามมาด้วยต้นปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ ภาคใต้ประสบอุทกภัยจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มในหลายพื้นที่ จนต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่โดยด่วน รวมทั้งการเกิดพื้นดินทรุดตัวใจกลางกรุงเทพมหานคร และกระแสข่าวเขื่อนร้าวจากแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นในจังหวัดทางภาคเหนือ ทำให้คนไทยเริ่มตระหนักว่าภัยพิบัติเหล่านี้เป็นภัยใกล้ตัว อาจจะเกิดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ได้ และเป็นไปได้ว่า เร็วๆ นี้อาจจะมีเหตุการณ์ที่เหนือการคาดเดา จนเราคาดไม่ถึงก็เป็นได้

สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี จึงร่วมกับ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานเสวนาหัวข้อ “ตื่นรู้ อยู่กับภัย” ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ ๔๐ พร้อมแนะนำหนังสือ อ่านก่อนถึงวันสิ้นโลก ซึ่งเป็นคู่มือช่วย เตรียมกายและ เตือนใจ ให้คนไทยตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยได้รวบรวมข้อมูลไว้ครบถ้วน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ พุทธพยากรณ์ คำสอนของครูบาอาจารย์ คำทำนายของท่านผู้รู้ ทรรศนะจากผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ รวมถึงแนะนำข้อควรปฏิบัติขณะเกิดภัยพิบัติใน ทุกมิติ

ดร. สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการ มูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หนึ่งในผู้เขียนหนังสือ อ่านก่อนถึงวันสิ้นโลก เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า “๒๑-๒๔ ธันวาคมปีนี้ จะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ของผิวดวงอาทิตย์ สนามแม่เหล็กยักษ์จะมากระทบโลก พร้อมๆ กับลมสุริยะที่จะเดินทางตามหลังมาใน ๒๔-๔๘ ชั่วโมง ซึ่งไปตรงกับข้อมูลต่างๆที่ทำให้เกิดกระแสวันสิ้นโลกในปีนี้ แต่สิ่งที่ใกล้ตัวเรามากกว่านั้นคือ ภัยน้ำท่วม ซึ่งไม่ใช่ความผิดพลาดของธรรมชาติ แต่เป็นเพราะมนุษย์ที่ไม่สามารถจัดการปัญหาได้ หากยังเป็นเช่นนี้ เชื่อว่าปีนี้กรุงเทพฯ ก็อาจจะได้รับผลกระทบหลายอย่าง อีกเรื่องหนึ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนหลายจุด โดยเฉพาะรอยเลื่อน ศรีสวัสดิ์และรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ ในจังหวัดกาญจนบุรี ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตไปสร้างเขื่อนทับถึงสองเขื่อนคือ เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหวมากกว่า ๗ ริกเตอร์ เขื่อนจะแตก และน้ำจะท่วมพื้นที่บริเวณนั้นสูงถึง ๒๒ เมตร ดังนั้นเราควรจะเตรียมพร้อมรับมือ ควรมีการซ้อมกันสม่ำเสมอ หากไม่รู้ว่าเริ่มต้นอย่างไร ให้ลองศึกษาจากหนังสือ อ่านก่อนวันสิ้นโลก เพราะข้อมูลและการเตรียมตัว มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมดแล้ว”

ดร. ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “สาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ปีที่แล้ว เกิดจากการที่ภาครัฐปล่อยน้ำจากเขื่อนมากเกินไปและไม่มีการจัดการอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามเราโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระราชดำริจัดทำโครงการต่างๆ ด้านการบริหารจัดการน้ำไว้มากมาย ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ยึดปฏิบัติตามแนวทางพระราชดำริเสมอมา จึงมั่นใจว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ และมีแนวโน้มว่าจะแล้งมากกว่าท่วมด้วยซ้ำ หากพูดถึงวันสิ้นโลก ผมคิดว่าอย่างไรก็ต้องเกิด เพียงแต่จะเกิดขึ้นเมื่อไรเท่านั้นเอง ดังนั้นให้คิดเสมอว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของเราและทำวันนี้ให้ดีที่สุด เมื่อเรารับทราบข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับภัยพิบัติแล้ว เราต้องตระหนักรู้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต”

อนุรุธ ว่องวานิช นายกยุวพุธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้จัดทำหนังสือ อ่านก่อนถึงวันสิ้นโลก กล่าวว่า “การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัตินั้น สำคัญทั้งกายและใจ แต่คนมักจะมองข้ามเรื่องของ ใจเพราะทุกวันนี้ใจเราวิบัติอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรมีสติอยู่พร้อม แล้วเราจะเอาตัวรอดได้ พระพุทธศาสนาไม่ปฏิเสธเรื่องความตาย แต่สอนเรื่องมรณานุสติ เปรียบเสมือนตายก่อนตาย เมื่อใดที่ใจพร้อม เราจะไม่ดิ้นรนและไม่ทุกข์ หนังสือ อ่านก่อนวันสิ้นโลกได้ถ่ายทอดเรื่องของภัยพิบัติไว้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ จิตวิญญาณ รวมถึงพุทธศาสตร์ จึงเป็นคู่มือเตรียมพร้อมทั้งกายและใจดีที่สุดเล่มหนึ่ง”

ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวที่ติดตามรายงานสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ อย่างใกล้ชิด กล่าวว่า “ทุกวันนี้คนไทยตื่นตัวเรื่องภัยพิบัติกันมากขึ้น แต่บางครั้งชาวบ้านก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ภาครัฐเตือน คนไทยจึงควรช่วยเหลือตนเองหาความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติมากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยเรียนรู้กันทีหลัง เมื่อเราเตรียมพร้อมทั้งกายและใจอยู่ตลอดเวลาแล้ว เราก็จะไม่เครียด และเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์”

***********************************************************************

With best regards, Pattama Vattanaparinton (Pan) Media Relations Supervisor DC Consultants and Marketing Communications Ltd Amarin Plaza, Level 22, 496-502 Ploenchit Road, Lumpini, Pathumwan, Bangkok 10330 Direct Line: (662) 610 2377 Mobile: (668) 9403 9931 Tel: (662) 610 2364-5 Fax: (662) 610 2345-6 http://www.dcconsultants.co.th


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น