สุทธิคุณ กองทอง หนุ่ม

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บ้านประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน…เพิ่มความสุข พล.ท. ดร.ยอดยุทธ บุญญาธิการ คุณภาพชีวิตในบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม




นิตยสาร WhO?

เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง

ภาพ : ชวรินทร์ เผงสวัสดิ์

แต่งหน้า : บัณฑิต บุญมี

บ้านประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน…เพิ่มความสุข

พล.ท. ดร.ยอดยุทธ บุญญาธิการ

คุณภาพชีวิตในบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

[INTRO] เรียบง่ายแต่พอดีกับบ้านประหยัดพลังงานของครอบครัวบุญญาธิการ” ที่ขนาดของบ้านไม่สำคัญเท่าความสุขกาย สบายใจของสมาชิกทุกคนในครอบครัว

[Body] เพราะตระหนักดีว่าคุณภาพชีวิตที่ดีมาจากความสุขของทุกคนในครอบครัว บิ๊กยอด-พล.ท. ดร.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (ผบ.นปอ.) จึงอยากได้บ้านที่อยู่แล้วสบายกาย สบายใจ และสบายตา โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีของสมาชิกทุกคนเป็นหลัก ก่อนจะตัดสินใจสร้างบ้านขนาด 570 ตารางเมตร บนพื้นที่ 110 ตารางวา ย่านหลักสี่ เป็นบ้านประหยัดพลังงาน ที่นอกจากจะช่วยลดโลกร้อนแล้ว ยังอบอุ่นอยู่สบายตรงตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของทุกประการ

// ประหยัดพลังงานด้วยหลัก 3 ประการ

“หลายปีก่อนผมได้ไปบ้านเพื่อนหลายคนที่อยู่หมู่บ้านจัดสรร สังเกตว่าทำไมเข้าไปนั่งในบ้านแล้วรู้สึกอึดอัด เพราะเป็นห้องสี่เหลี่ยมมีแต่ผนังฉาบปูน ก่อนสร้างบ้านใหม่ ผมจึงคิดว่าจะสร้างระบบใหม่ที่ประหยัดพลังงาน หรือสร้างแบบเดิมดี” ท่าน ผบ.เปิดประเด็นถึงที่มาของบ้านหลังใหม่ที่ใช้งบประมาณเพียงไม่กี่ล้านบาท

ความที่ไม่ชอบรูปแบบของบ้านจัดสรร ซึ่งส่วนใหญ่มีหน้าตาคล้ายๆ กัน คือห้องสี่เหลี่ยมผนังทึบรอบด้าน อยู่แล้วอึดอัด ไม่สบาย บิ๊กยอดจึงให้้พี่ชาย ศ.ดร.สุนทร บุญญาธิการ ออกแบบบ้านประหยัดพลังงานหลังนี้ให้ โดยเน้นหลัก 3 ประการ คือ แสงที่เหมาะสม สบายตา ไม่อึดอัด มองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้ ประการที่ 2 คือไม่มีเสา โดยออกแบบให้ใช้วัสดุมวลเบาทั้งหลังคาและผนัง ทำให้มีพื้นที่โล่งโปร่งตา สามารถกั้นห้องได้ตามต้องการ และประการสุดท้ายคือวัสดุที่ใช้ต้องกันความร้อนและความชื้น เช่น ผนังใช้วัสดุมวลเบาที่สามารถกันความร้อนได้ พื้นฉาบด้วยโฟมก่อนเทปูนเพื่อกันความชื้นจากใต้ดินและป้องกันเชื้อรา รวมถึงประตูหน้าต่างก็ใช้กระจกฮีตสต็อปซึ่งมีคุณสมบัติในการกันรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตและรังสีอินฟาเรตไม่ให้ผ่านเข้าสู่ตัวบ้าน แต่ยอมให้แสงสว่างผ่านเข้ามาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ทำให้บรรยากาศภายในมืดทึมเหมือนอย่างการติดฟิล์มกระจกทั่วไป ประกอบกับการใช้สีอ่อนตัดกับสีเข้มในปริมาณที่พอดี บ้านหลังนี้จึงสว่าง ปลอดโปร่ง และเย็นสบาย จนแทบไม่ต้องพึ่งแสงไฟและเครื่องปรับอากาศ

นอกจากนี้เจ้าของบ้านยังลดความร้อนภายนอกด้วยการปลูกต้นไม้รอบบ้าน โดยดูทิศทางลมให้สามารถพัดผ่านได้อย่างดี “ผมพยายามปลูกต้นไม้ให้เป็นรั้วเพื่อไม่ให้บ้านดูทึบ ส่วนด้านหลังเป็นทิศตะวันตกจึงเน้นปลูกต้นไม้ให้สามารถบังเงาแดดเพื่อลดความร้อนลงได้ การปลูกต้นไม้ต้องดูทิศทางแดด ทิศทางลมด้วยว่าจะให้ลมเข้าด้านไหน แล้วให้ออกด้านไหน” บิ๊กยอดบอกหลักการในการปลูกต้นไม้ซึ่งทำให้ได้ร่มเงาเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจข้างนอกบ้านเพิ่มอีกหลายมุม

//ประหยัดเงิน แต่ทนทานนานปี

นอกจากประหยัดพลังงานแล้ว ท่าน ผบ.บอกว่าค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างบ้าน ประหยัดพลังงานแบบนี้ยังถูกกว่าบ้านทั่วไปอีกด้วย เพราะวัสดุที่ใช้ราคาถูกกว่า หนำซ้ำระยะเวลาในการก่อสร้างยังน้อยกว่า จึงนับว่าคุ้มค่าประหยัดราคา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

“ผมว่าที่ถูกกว่าเพราะวัสดุเหลือใช้ไม่มี ไม้แบบเราก็ไม่ต้องเสีย การก่อสร้างก็เร็วกว่าแบบเดิม บ้านหลังนี้สร้างจริงๆ ไม่เกิน 6 เดือน เลยประหยัดเรื่องค่าแรง ไม้แบบ และวัสดุบางอย่างก็ถูกกว่า ใครที่กำลังจะสร้างบ้านใหม่ อยากหันมาปลูกบ้านประหยัดพลังงานแบบผมก็ลองศึกษาดูได้ครับ” แบ่งปันข้อมูลด้วยรอยยิ้มภูมิใจในบ้านอนุรักษ์พลังงานของตัวเอง

แม้จะมีเรื่องความประหยัดเป็นข้อดีที่เห็นได้ชัด แต่หลายคนก็นึกเป็นห่วงเรื่องความแข็งแรงของตัวบ้าน เพราะบ้านประหยัดพลังงานแบบนี้ไม่มีโครงสร้างเหมือนบ้านทั่วไป โดยเฉพาะเสาบ้านซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นโครงสร้างหลักของบ้านที่ขาดไม่ได้ ก่อนจะสร้างบ้านหลังนี้บรรดาคนใกล้ชิดจึงมีคำถามตามมาให้บิ๊กยอดตอบไม่ได้ขาด

“ผมเห็นเมืองนอกก็ใช้ระบบนี้ แผ่นดินไหวหรือเจอพายุแรงๆ ก็ทนแรงเสียดทานได้ดีกว่าบ้านทั่วไป เรียกว่ามั่นคงถาวร ทุกจุดของบ้านมีการดึงและยึดกันอย่างดี วัสดุที่ใช้ก็ไม่ย่อยสลาย เช่น ฉนวนโฟมอยู่ด้านในก็ไม่มีวันย่อยสลาย แต่ถ้าเป็นอิฐ-ปูน 100-200 ปีก็อาจหมดอายุ ร่อนออกตามกาลเวลา ผมไปดูบ้านประหยัดพลังงานของพี่สาวที่ปลูกมาเป็นสิบปีก็ยังคงทน สีที่ทาผนังบ้านทาไปแล้วก็ไม่แตกร้าวเหมือนบ้านทั่วไป เพราะเคลือบด้วยกาวซีเมนต์ ผมเลือกสีเบรทโคลฉาบ รับประกันว่าไม่มีการแตกร้าว” ย้ำชัดถึงความมั่นคงแข็งแรงของตัวบ้าน แถมยังสนับสนุนให้หันมาสร้างบ้านประหยัดพลังงาน เพราะนอกจากจะช่วยเซฟค่าไฟในอนาคตแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้คุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วย

//สะดวกสบาย สไตล์เรียบง่าย

เมื่อก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน สไตล์การตกแต่งภายในดูเรียบง่ายไม่ต่างจากภาพลักษณ์ภายนอก แต่เน้นที่ความสะอาดสะอ้าน สะดวกสบายในการใช้งาน ตามสไตล์ของผู้เป็นเจ้าของ

“การตกแต่งภายในบ้านไม่ได้หรูหราอะไร เน้นเรียบง่ายและประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก จึงไม่เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีราคาแพง แต่งตามความสะดวกในการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร เคาร์เตอร์ก็พยายามให้ดูเรียบง่าย หยิบใช้สะดวก ใกล้กัน ผมเน้นความเรียบง่ายสะดวกกับการใช้ชีวิตมากกว่า” บิ๊กยอดเผยถึงสไตล์การตกแต่ง ก่อนจะพาเดินชมภายในบ้านอย่างใกล้ชิดชนิดเข้าถึงทุกห้อง

เริ่มจากชั้นล่างซึ่งเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ประกอบไปด้วยส่วนรับแขก และส่วนรับประทานอาหารซึ่งใช้เป็นห้องเอนกประสงค์ ทั้งรับประทานอาหาร นั่งเล่น ดูทีวี และอ่านหนังสือ รวมถึงห้องคาราโอเกะที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอน หรือจะเปิดประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อพื้นที่เข้ากับห้องรับแขกก็กลายเป็นห้องสังสรรค์ขนาดใหญ่ ใช้สำหรับต้อนรับแขกจำนวนมากได้ ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ที่ถือเป็นวันรวมญาติ ห้องคาราโอเกะจะถูกจับจองจากญาติพี่น้องที่ชื่นชอบการร้องเพลงอยู่เสมอ แต่สำหรับท่าน ผบ.แล้ว ออกตัวว่าร้องเพลงไม่เก่ง ส่วนใหญ่จะเป็นคนเปิดเพลงให้คนอื่นๆ ร้องมากกว่า โดยเฉพาะภรรยา (พวงเพ็ญ บุญญาธิการ) ที่ท่านบอกว่าร้องเพลงเพราะไม่แพ้มืออาชีพ

“ผมร้องเพลงไม่เก่ง (หัวเราะ) แต่แม่บ้านผมชอบร้อง เรียกว่าน้องๆ สวลี ผกาพันธ์ จริงๆ ห้องคาราโอเกะผมให้พี่ชายดีไซน์เผื่อเอาไว้ด้วย เพราะเคยไปบ้านเพื่อนที่มีญาติผู้ใหญ่อายุมาก จะขึ้น-ลงบันไดก็ไม่ไหวกันแล้ว ผมเลยให้ออกแบบห้องคาราโอเกะเอาไว้เป็นห้องนอนในยามที่แก่เฒ่าด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ เลยใช้เป็นห้องคาราโอเกะ ดูหนัง และยังใช้เป็นห้องประชุมลับได้ด้วย เพราะมีบานเลื่อนปิดเป็นห้องส่วนตัวได้เวลามีแขกมาพูดคุยในเรื่องสำคัญๆ

เพลงที่ผมร้องจะเป็นเพลงเก่าๆ (หัวเราะ) อย่างเพลงลุ่มเจ้าพระยา ของคุณสุเทพ วงศ์คำแหง หรือเป็นเพลงคู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ผมจะคอยเปิดเพลงให้เขามากกว่า (ยิ้ม) วันเสาร์-อาทิตย์จะมีญาติมารวมตัวกันที่บ้าน ที่ปลูกติดกันก็เป็นบ้านน้องสาว หลังถัดไปเป็นบ้านพี่สาวแฟน ส่วนหลานอยู่พุทธมณฑล เสาร์-อาทิตย์ก็จะมารับประทานอาหารที่บ้าน เสร็จก็สังสรรค์ด้วยการร้องคาราโอเกะกัน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่ออกไปกินข้าวที่ไหน เรากินอาหารที่ภรรยาทำ อยู่กันสบายๆ ไม่ได้เน้นเรื่องความหรูหราอะไร” เล่าจบบิ๊กยอดก็ชวนภรรยาจับไมค์ร้องคาราโอเกะโชว์ลูกคอระดับมืออาชีพให้ฟังทันที

เพราะชอบรับประทานอาหารฝีมือภรรยา ที่บ้านจึงมีทั้งครัวฝรั่งและครัวไทย โดยครัวฝรั่งอยู่ในบ้าน ใช้เตรียมอาหารง่ายๆ ส่วนครัวไทยอยู่ข้างนอก เป็นครัวขนาดใหญ่ใช้ทำอาหารจำนวนมาก ด้านหลังยังเป็นลานซักล้างในร่มที่อากาศถ่ายเทดีไม่อบอ้าว จึงสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องฝนตกแดดออก

บนชั้น 2 เป็นมุมส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน เพราะเป็นห้องนอนของแต่ละคน ภายในห้องนอนใหญ่ของบิ๊กยอดกับภรรยามีห้องแต่งตัวกว้างขวาง แสงธรรมชาติส่องสว่างเพียงพอ สามารถเดินต่อเนื่องไปยังห้องน้ำภายในได้อย่างสะดวก ส่วนห้องนอนลูกสาว (ปวิตา โตทับเที่ยง) และลูกชาย (ร.ต.ณัฐกรณ์ บุญญาธิการ) ก็มีระเบียงและห้องน้ำในตัว เพื่อรองรับการขยายพื้นที่ในอนาคต สำหรับชั้น 3 เป็นห้องใต้หลังคาที่จัดให้มีมุมไหว้พระ มุมทำงาน และมุมอ่านหนังสือ เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ใช้ร่วมกันทั้งครอบครัว

เมื่อถามว่าชอบมุมไหนในบ้านมากที่สุด บิ๊กยอดบอกว่าชอบทุกมุม เพราะไม่ว่าจะมุมไหนก็เย็นสบายทั่วถึง มีความสุขได้ในทุกส่วนของบ้าน

//เศรษฐกิจพอเพียง…ความสุขในบ้านหลังเล็ก

ในฐานะหัวหน้าครอบครัวนำพาสมาชิกให้อนุรักษ์พลังงานและรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างบ้านประหยัดพลังงานและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในฐานะ ผบ.นปอ. ที่มีภารกิจในการป้องกันประเทศชาติ และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยอันเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ท. ดร.ยอดยุทธยังน้อมนำแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่กำลังพลและประชาชน เกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าและอนุรักษ์สายน้ำมาปฏิบัติ ผ่านกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) หนึ่งในหน่วยงานในสังกัด ที่จัดทำโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ เนื่องในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา โดยเริ่มจากกิจกรรม “คืนความสดใสให้คลองบางซื่อ เพื่อถวายพ่อหลวง” ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันฟื้นฟูสภาพน้ำเสียให้กลับมาดีดังเดิม

โดยท่าน ผบ.เผยมุมมองแนวคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ในรับผิดชอบหรือครอบครัว ต่างก็ต้องเน้นเรื่องคุณภาพชีวิตของสมาชิกและผู้เกี่ยวข้องเป็นหลัก โดยเฉพาะด้านครอบครัว สิ่งที่จะก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีนั้น ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่โตอย่างที่หลายคนอยากมี แต่เกิดจากความสุขในการใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในบ้านมากกว่า “ไม่ว่าจะทำงานหรืออยู่บ้านผมเน้นเรื่องของคุณภาพชีวิต ผมดูแล้วบ้านไม่จำเป็นต้องสร้างให้ใหญ่โตอะไรมาก เพราะเห็นเพื่อนบางคนสร้างบ้านใหญ่โตมโหฬารแล้วก็อยู่กัน 2 คน น่าจะเหงามากกว่ามีความสุข เลยกลายมาเป็นแนวคิดที่ว่า สร้างบ้านต้องอยู่แล้วพอดีๆ แต่เน้นเรื่องของคุณภาพชีวิต เข้ามาอยู่ในบ้านแล้วต้องสะดวกสบายกับการใช้สอย อยู่แล้วต้องสบายกาย สบายใจ”

ความสุขกาย สบายใจของบ้านบุญญาธิการมาจากความสมดุลในการดำเนินชีวิต เพราะหัวหน้าครอบครัวใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่แค่การใช้จ่าย แต่บิ๊กยอดใช้ความพอเพียง พอดีกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันชีวิตในทุกด้าน

“ผมใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการดำรงชีวิต คือใช้ชีวิตอย่างพอดี พอประมาณ ไม่ฟุ่มเฟือยหรือประหยัดเกินไป ใช้เงินให้พอเหมาะกับฐานะ ไม่ฟุ้งเฟ้อเกินตัว มีภูมิคุ้มกัน คือจะใช้จ่าย ลงทุน หรือทำกิจการอะไรต้องมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันว่าถ้าล้มเหลวหรือไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจต้องไม่เกิดความเสียหายจนเกินกว่าจะแก้ไข ซึ่งหลักปรัชญาในเรื่องความพอดี มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันนี้ ใช้กับการดำเนินชีวิตได้ทุกเรื่อง ทุกอย่าง เป็นทหารต้องมีความรู้ในเรื่องวิชาทหาร การป้องกันประเทศ วิชายุทธศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ ต้องมีคุณธรรม จริยธรรมในการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา”

และนอกจากหัวหน้าครอบครัวแล้ว คุณพวงเพ็ญ-ศรีภรรยาก็มีส่วนช่วยในการเอาใจใส่ ดูแลครอบครัวให้เปี่ยมสุขอยู่เสมอ เธอว่าความเป็นครอบครัวคือการใช้ชีวิตอยู่เพื่อกันและกัน ให้ความรักกับคนที่รัก รู้จักการให้เพื่อได้มาซึ่งความสุขที่แท้จริง “ถ้าคุณอยากมีความสุข จงใช้ชีวิตเพื่อผู้อื่น If you want to be happy,live for others ถ้าเราใช้ชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น หมายความว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง แต่ให้ทำเพื่อคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก หลาน ญาติพี่น้อง คนรอบข้างและสังคม ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ ชีวิตเราก็มีความสุข ทำให้ตัวเองมีคุณค่า ถ้าเราใช้ชีวิตอยู่เพียงเพื่อตัวเอง เราจะมีความต้องการสิ่งต่างๆ ตลอดเวลาไม่มีสิ้นสุด เช่น มีรัก โลภ โกรธ หลง แล้วชีวิตเราจะหาความสุขมิได้ เพราะจิตใจของเราจะไขว่คว้าอยู่ตลอดเวลา สอนลูกๆ เสมอว่า หากเมื่อใดลูกทุกข์ หรือมีอะไรเข้ามากระทบ ขอให้ลูกมองเป็นบวกก่อน เพราะถ้าตัวเรามองอะไรเป็นบวก ก็จะบวกกับตัวเรา ถ้ามองอะไรเป็นลบ ก็จะลบตัวเราไปด้วย”

คำว่า “บ้าน” สำหรับครอบครัวบุญญาธิการไม่ได้อยู่ที่ขนาดหรือความหรูหรากว้างใหญ่ หากแต่ต้องอยู่แล้วสบาย มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมือนกับบ้านประหยัดพลังงานหลังนี้ที่มีครบทุกประการที่กล่าวมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น