สุทธิคุณ กองทอง หนุ่ม

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นางเอกอารมณ์ศิลป์ ทราย เจริญปุระ โต้ข่าวทำแท้ง เผย “แม่อยากมีหลาน แต่ไม่อยากให้ลูกมีสามี”


เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง

ภาพ : นพพล ภาคสุทธิผล

แต่งหน้า : บัณฑิต บุญมี




นางเอกอารมณ์ศิลป์ ทราย เจริญปุระ

โต้ข่าวทำแท้ง เผยแม่อยากมีหลาน แต่ไม่อยากให้ลูกมีสามี


- ปฏิเสธลั่น...ไม่เคยทำแท้ง! แค่คนกินข้าวด้วยยังไม่มี

- ยังโสดสนิท ไม่คิดมีแฟน เหตุขยาดรักครั้งเก่า

- ฝันชิมลางเป็นผู้กำกับหนังตามอย่างพ่อ

หลังจากถูกพ่วงเป็น 1 ใน 3 นางเอกสาวที่มีอักษรย่อตามลิสต์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเคยใช้บริการหมอทำแท้งทารกสองพันศพจากคดีสุดสลด วัดไผ่เงิน ที่เป็นข่าวดังอยู่เกือบสัปดาห์ ทราย-อินทิรา เจริญปุระ นักแสดงคนดังฉายานางเอกร้อยล้านและทายาทอดีตผู้กำกับภาพยนตร์ผู้วายชนม์ รุจน์ รณภพ เปิดใจเคลียร์ทุกคำถามที่บ้านย่านติวานนท์

/// โสดสนิท ไม่คิดทำแท้ง

นางเอกสาวหัวเราะก่อนชี้แจงข่าวที่พาดพิงถึงตัวเองว่ามันน่าเจ็บใจ รู้บ้างไหมว่าทรายไม่มีแฟนมานานหลายปี แล้วจะท้องได้ยังไง เพราะคนเราก่อนจะทำแท้งก็ต้องมีเพศสัมพันธ์กันก่อนใช่ไหม ตอนนี้แค่คนจะไปกินข้าวด้วยกันยังไม่มีเลย แล้วจะให้ไปท้องกับใคร มันเซ็งตรงที่ว่าต้องมานั่งบอกว่า หนูยังไม่มีแฟนยืนยันน้ำเสียงหนักแน่น

พอเจอข่าวแบบนี้จะสงสารแม่ (สุภาภรณ์ เจริญปุระ) มากกว่า เพราะปีที่แล้วคุณพ่อเพิ่งเสีย สภาพจิตใจคุณแม่ก็เพิ่งเริ่มดีขึ้น พอมาเจอข่าวนี้ถือว่ามันเป็นข่าวที่แรงและไม่เป็นมงคลแม้ครั้งแรกที่รู้ข่าว เจ้าตัวยังนึกโกรธจนลมออกหู แต่พอมีสติจึงคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่นานก็ต้องผ่านไป จึงปล่อยให้กระแสข่าวค่อยๆ จางหายไปเอง โดยไม่คิดออกมาโต้แย้งให้มากความ

ตอนที่รู้ข่าวจากนักข่าวที่โทรมาสัมภาษณ์ ตอนนั้นกำลังหลับๆ สะดุ้งตื่นเลย พอเขาเอ่ยว่ามีชื่อทรายด้วยนะ ยังงงๆ ว่าฉันเนี่ยนะ (ลากเสียงยาว) ทำแท้ง หรือทำแทงก์ (tank) เอาให้แน่ (หัวเราะอารมณ์ดี) พี่นักข่าวก็บอกว่าเขาทำงานตามหน้าที่ ก็บอกว่าหนูเข้าใจ แต่พี่ก็ต้องเข้าใจหนู เพราะการพูดบ่อยๆ มันก็เศร้า คุณแม่เองรู้เรื่องตอนแรกก็ตกใจ เพราะลูกสาวไม่เคยเจอข่าวแรงๆ ขนาดนี้ ไม่เคยเตรียมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ มีคนแนะนำให้ฟ้อง แต่ชีวิตคนที่เราจะฟ้องเขาก็คงแย่มากแล้วตอนนี้ ถึงฟ้องเขา ทรายก็ไม่ได้ดีขึ้น เขาเองก็คงไม่ได้แย่ไปกว่านี้ แล้วจะให้ฟ้องเพื่ออะไรกล่าวพลางส่ายหน้าราวกับปลงตกกับข่าวที่เกิดขึ้น

ทรายมีความรู้สึกว่าข่าวแบบนี้ออกไปก็ต้องมีคนเชื่อ แต่คงไม่มีใครมาถามหรอกว่าจริงหรือไม่จริง เพราะเขาเลือกที่จะเชื่อ แต่คนที่รู้จักทรายทุกคนก็จะมาขำใส่หน้าทรายกันหมด แล้วการที่ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ก็มีคนที่เชื่อและไม่เชื่อ แต่ก็ไม่สามารถบังคับใครได้ จะให้ไปบอกกับทุกคนทั้งประเทศไทยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ทรายพูดความจริงแล้ว จะให้ทำอะไรนอกจากความจริงอีกหรือ

สิ่งที่ทรายได้จากข่าวนี้ก็คือ ได้ขึ้นหน้า 1 โดยไม่ต้องตาย (หัวเราะ) เพราะปกติคนที่ขึ้นหน้า 1 ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายก็ต้องทำอะไรประหลาดๆ การที่ทรายได้ขึ้นหน้า 1 ข่าวแบบนี้จะให้ระวังก็คงไม่ได้ เพราะเราไม่เคยทำ ก็เปรียบเหมือนคนกำลังเตะฟุตบอลอยู่ แล้วทรายก็ถูกลูกบอลกระเด็นใส่ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย แค่เดินผ่านสนามหญ้าเฉยๆ

ข่าวอย่างนี้อาจไม่ใช่บทเรียนอะไรในชีวิต แค่ได้แต่พูดขำๆ กับใครๆ ได้ว่า ฉันเคยขึ้นหน้า 1 กับเรื่องแบบนี้ แต่สุดท้ายเรื่องนี้มันก็ต้องผ่านไปเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตราวกับว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้จริง จากที่เป็นเรื่องไกลตัวก็มาถึงตัวแบบไม่ทันตั้งหลัก พร้อมตัดพ้อว่า ไม่รู้ชีวิตนี้จะเจอข่าวฉาวแบบนี้อีกหรือไม่

/// ไม่พร้อมมีคู่ หรือเข็ดขยาดความรัก

ถามว่าเข็ดขยาดกับความรักหรือไม่ถึงได้ครองสถานะโสดล่วงเลยมาจนถึงอายุ 30 ปีเต็ม เพราะในอดีตเธอก็ผ่านพ้นมรสุมเรื่องความรักที่ผิดหวังมาแทบทุกครั้ง ตั้งแต่เป็นแฟนร็อกเกอร์หนุ่ม แมว-จิระศักดิ์ ปานพุ่ม ที่สุดก็เลิกรากันไป

ไม่นานก็ศึกษาดูใจอยู่กับ อ๊อฟ-พูนศักดิ์ จตุระบุล มือกีตาร์วงบิ๊กแอส ถึงขั้นซื้อแหวนแทนใจกันและกัน แต่ที่สุดรักก็ต้องมาล่มลงกลางทาง ซึ่งแว่วว่ารักครั้งหลังนี่แหละที่ทำให้เธอเข็ดขยาดมาจนบัดนี้

ทุกครั้งเวลาแม่บ่นน้องสาว (ภรณ์รวี ศีตะปันย์) ว่าแต่งงานแล้วก็ยังไม่มีหลานสักที ก็ชอบมาพูดแหย่เล่นกับทรายว่าอยากมีหลาน แต่ไม่อยากให้ลูกมีสามีพูดเล่นกันไป จริงๆ แม่คงรู้ว่าทรายยังชอบใช้ชีวิตเรื่อยๆ ส่วนน้องชาย (ภวัต เจริญปุระ) ก็ยังใช้ชีวิตเรื่อยๆ เหมือนกันหัวเราะครืนใหญ่ พร้อมบอกสเปกผู้ชายที่ชอบต้องเป็นคนที่มีอาวุโสมากกว่า

เธอว่าอายุขนาดนี้ถ้าจะมีลูกเห็นทีคงจะลำบากไปอีกนาน ชีวิตที่ผ่านมาได้เห็นแม่เลี้ยงลูกทั้ง 3 คนด้วยความเหนื่อยยากถ้าทรายคิดแต่งงานตอนนี้เลย กว่าจะท้อง จะมีลูกออกมา อายุ ก็ปาไป 32 เรื่องลูกตอนนี้ทรายคงไม่ (ตอบพลางส่ายหน้า) ชีวิตทรายตอนนี้ยังโสดสนิท ความรักที่ผ่านมาทำให้ได้คิดว่า เราไม่ควรจะไปสบายใจอะไรง่ายๆ พอผิดหวังกับความรัก คุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะทรายมีระบบเยียวยาตัวเอง แต่ถ้ามีใครมาคอยโอ๋ คอยปลอบใจ ก็จะไม่หายเจ็บปวดเสียที (หัวเราะ)

ยิ่งถ้าใครมาแตะตัวปุ๊บ ต่อมน้ำตาจะทำงานทันที มีคนแนะนำต้องทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ใจเย็นๆ ช่างมัน เดี๋ยวก็ดีขึ้น เรารู้ทุกอย่าง แต่เรายังทำไม่ได้ เข้าใจไหม ทรายก็ขอบคุณ แต่คนที่รู้จักทรายก็จะบอกว่าปล่อยมัน ให้มันเยียวยาตัวเอง เดี๋ยวก็ดีขึ้น เพราะถ้าเราไม่ตาย เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นซึ่งสิ่งที่เธอใช้เยียวยาหัวใจที่บอบช้ำคือการยอมรับและอยู่กับความเป็นจริง

/// คู่เหมือนพ่อลูกสายเลือดศิลปิน

ต้องยอมรับว่าประสบการณ์ 15 ปีที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการมายาได้พิสูจน์ความสามารถของบุตรสาวอดีตนักแสดงมากฝีมือและผู้กำกับมือดีของอันดับต้นๆ ของเมืองไทย รุจน์ รณภพ (หรือมีชื่อ-นามสกุลตามบัตรประชาชนว่า สุรินทร์ เจริญปุระ) ผู้วายชมน์ไปเมื่อปี 2552

จากสาวน้อยหน้าใสที่เปิดตัวครั้งแรกด้วยการเป็นศิลปินเดี่ยวในสังกัดแกรมมี่เมื่อปี 2538 และฉายฝีมือการแสดงในละครเรื่องแรกล่าประกบ สินจัย เปล่งพานิช ที่แจ้งเกิดเธอในฐานะนักแสดงเต็มตัวด้วยผลงานละครอีกมากมายในภายหลัง กระทั่งได้รับฉายาเป็นนางเอกร้อยล้าน จากรายได้ถล่มทลายของภาพยนตร์เรื่องแม่นาคพระโขนง ที่เธอตีบทแตกละเอียด จนกลายเป็นโลโก้ของนางเอกหนังผีในที่สุด

ปัจจุบันนอกจากกำลังมุ่งมั่นกับการถ่ายทำภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ภาคสุดท้าย กับบทบาทของเลอขิ่น ธิดาเจ้าเมืองคัง ซึ่งเป็นอีกบทพิสูจน์ความสามารถทางการแสดงที่ถ่ายทอดสายเลือดและวิญญาณของศิลปินจากผู้เป็นพ่อมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ลูกสาวเล่าความรู้สึกถึงคุณพ่อที่เคยเป็นเสมือนเสาหลักในครอบครัวว่า พอรู้ว่าพ่อเสีย เราเหมือนเสียหลัก และยังชินกับกิจวัตรเดิมๆ เหมือนกับคุณพ่อยังอยู่ด้วยกัน ช่วงแรกๆ ที่คุณพ่อเสีย ทรายยังตื่นเช้าเหมือนทุกวันเพื่อลงมาดูว่าพ่อกินข้าวหรือยัง แต่ลืมไปว่าพ่อไม่ได้อยู่กับเราแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นทรายก็เหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนคุณพ่อมาระยะหนึ่งแล้ว ก็เหมือนได้ทำใจเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าวันหนึ่งคุณพ่อก็ต้องจากเราไป แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็รู้สึกเคว้งๆ เป็นธรรมดา เหมือนเสียเสาหลักไปในขณะที่คนรอบข้างที่รู้จักคุ้นเคยกับครอบครัวของเธอก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอกับพ่อมีนิสัยเหมือนกันตรงที่เป็นคนใจร้อน

ก่อนคุณพ่อเสีย คุณพ่อก็ไม่ได้ฝากอะไร แต่จำได้ว่าตอนแรกที่เข้าสู่วงการบันเทิง พ่อจะบอกว่าให้ตั้งใจทำงาน ตรงต่อเวลา อย่าไปสาย และให้เชื่อฟังผู้กำกับด้วย และยังสอนให้เราเป็นคนรับผิดชอบ สำหรับทรายการตายของพ่อเป็นเรื่องที่ทำให้เสียใจที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะเขาเป็นพ่อเราที่ผูกพัน แต่พ่อก็เดินมาถึงปลายทางของชีวิตแล้ว พอคิดแบบนี้เราก็ไม่เป็นทุกข์ ท้ายที่สุดเราจะต้องอยู่ต่อไปให้ได้ อยู่ให้ท่านภูมิใจ ถึงแม้จะอยู่โดยที่ไม่มีพ่อแล้วก็ตาม แต่ทรายคิดอยู่เสมอว่าพ่อยังอยู่ และคอยดูความสำเร็จของเราตลอด ดังนั้นจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง และยังจำคำที่พ่อสอนเสมอคือให้รู้จักรับผิดชอบตัวเองให้ได้น้ำเสียงเข้มแข็งสั่นเครืออยู่่ในทียามเอ่ยถึงพ่อที่เธอเฝ้าดูแลจนวาระสุดท้ายของชีวิต

/// เตรียมโชว์ฝีมือผู้กำกับหนังสั้น

ถามถึงจุดมุ่งหมายในอนาคตของเธอ นอกจากการเป็นนักแสดงมืออาชีพและนักเขียนตัวยงที่ฝากผลงานเรื่องสั้นและพ็อกเกตบุ๊กรวบรวมบทความที่เธอเป็นคอลัมนิสต์ประจำในมติชน สุดสัปดาห์ ลูกไม้ใต้ต้นออกตัวว่าหล่นอยู่ไกลต้นนัก เพราะมิอาจเทียบชั้นกับคุณพ่อของเธอได้

ทรายชอบเป็นลูกจ้างมากกว่า สบายดี เพราะการเป็นผู้กำกับต้องดีลกับคนเยอะมาก และต้องมีความโหดพร้อมๆ กับการยอมรับได้ในเวลาเดียวกัน เช่น แสงจะหมดแล้ว ทีมงานก็กลัวจะไม่ทัน แต่เราจะเอามันก็ต้องมีความเด็ดขาดตรงนั้นอยู่ด้วย แต่ก็ต้องรู้จุดด้วยว่าบี้ไปก็เท่านั้น ถ้าทรายเป็นนักแสดง ถูกเขาสั่ง ทรายโอเคนะ แต่ถ้าวันหนึ่งทรายต้องไปสั่งน้าที่จัดไฟ ซึ่งเคยทำงานตั้งแต่สมัยพ่อ แล้วจะให้ไปสั่งเขายังไง หรือจะให้บอกว่า น้าคะ ย้ายไฟเดี๋ยวนี้ ก็เกรงจะโดนต่อว่า ยายนี่ปีนเกลียวมากๆ เลย แต่หลายคนก็บอกว่าเขาไม่คิดหรอก ทำงานก็คือทำงาน

ถ้าไปเป็นผู้กำกับแบบพ่อต้องมีแน่ๆ คือกรี๊ดตลอด เคยเห็นพ่อทำงานก็จะเป็นแบบนี้ (หัวเราะ) เพราะจริงๆ แล้วกรรมพันธุ์น่าจะมีผล สังเกตพ่อเป็นผู้กำกับ เมื่อเทียบกับการเป็นนักแสดง ความเครียดแตกต่างกันสูงมาก เพราะแสดงอย่างเดียวจะสบายกว่า เป็นนักแสดงก็กดดันเฉพาะตัวเองว่าต้องทำให้ได้ แต่เป็นผู้กำกับต้องกดดันทุกอย่าง ทรายเองก็ไม่รู้ว่าจะทนความกดดันตรงนี้ได้ขนาดไหนที่จะไม่ต้องเป็นบ้าไปเสียก่อน ยังนึกไม่ออกว่าจะหาความพอดีตรงนี้ยังไง แม้จะถ่อมตัวเพราะกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีอย่างที่หวัง แต่จากนี้ไปไม่นานอาจได้เห็นฝีมือ ทราย เจริญปุระ โชว์ฝีมือกำกับหนังสั้น เดินตามรอยพ่อในฐานะผู้กำกับเต็มตัวบนจอเงินก็เป็นได้...ใครจะรู้้

///////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น