สุทธิคุณ กองทอง หนุ่ม

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บางจาก...พาเที่ยวธรรมชาติป่าชานเมือง ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง … ตลาดนัดลดโลกร้อน

























































































































































































































.

เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง ภาพ พงษ์พันธ์ แพเพ็ชร

บางจาก...พาเที่ยวธรรมชาติป่าชานเมือง

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง … ตลาดนัดลดโลกร้อน

//ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เป็นสถานที่หนึ่งที่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของชาวบ้านร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และอบต.บางน้ำผึ้ง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสนับสนุนให้ชาวบ้านมีรายได้จากการนำผลผลิตในท้องถิ่นของตัวเองมาจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ สร้างงานส่งผลให้วันนี้กลายเป็นชุมชนเข้มแข็ง

วันนี้ผมตื่นนอนตั้งแต่เช้าสะพายเป้เดินหน้า โดยจุดหมายปลายทางตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ยังไงผมขอพาทุกท่านเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไปหานะเธอ ไม่ใช่ๆ ครับ รถไฟฟ้า บีทีเอสนั่นเอง โดยนั่งมาลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ จากนั้นเดินไปขึ้นรถประจำทาง สาย 82 ที่วิ่งจากสนามหลวง-ตลาดพระประแดง เมื่อลงรถแล้วเดินไปที่หน้าทำการอำเภอพระประแดง เพื่อต่อรถกระป๊อไปยังตลาดน้ำบางน้ำผึ้งค่าโดยสาร คนละ10 บาท

ส่วนใครเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็ขึ้นทางด่วนมาลงตรงถนนสุขสวัสดิ์ แล้วเลี้ยวซ้ายไปพระประแดง ขับมาเรื่อยๆ จนเจอร้านแว่นท็อปเจริญ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป แล้วขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านใต้สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ให้เลี้ยวขวาทางไป "บางกอบัว" ข้ามสะพานขับตรงไปอีกประมาณ 4 กม. ก็จะถึงทางเข้า "วัดบางน้ำผึ้งใน" ให้เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 600 เมตร ก็จะถึงตลาดน้ำ แต่ใครอยู่ย่านบางนาก็สามารถไปนั่งเรือข้ามฟากหรือนำรถไปลงแพเพื่อข้ามไปฝั่งพระประแดงก็น่าจะสะสวกอีกเช่นกันครับ

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแห่งนี้เปิดวันเสาร์และอาทิตย์ โดยเปิดตั้งแต่แปดโมงเช้าเป็นต้นไปจนถึงเย็น ๆ เป็นตลาดน้ำที่ใกล้กรุงเทพซึ่งคุณจะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลองพ่อค้าแม่ค้าหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งถือว่าเป็นตลาดน้ำเพื่อสุขภาพอีกแห่งหนึ่ง เพราะปลอดแอลกอฮอล์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสุราหรือบุหรี่ก็จะมีในตลาดแห่งนี้

//ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง...เกิดจากฟองสบู่

ผมเดินทางมาถึงตลาดน้ำบางน้ำผึ้งด้วยความเป็นชาวพุทธเห็นวัดก็เลยขอไปไหว้พระที่วัดบางน้ำผึ้งในเพื่อให้เป็นมงคลกับชีวิต จากนั้นผมเดินไปพบ นายก อบต.บางน้ำผึ้ง (สำเนาว์ รัศมิทัต) ซึ่งเป็นผู้เริ่มแนวคิดให้เกิดตลาดบางน้ำผึ้งที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ ทุกๆวันก็จะมีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวในตลาดน้ำแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก ท่านนายกฯ สำเนาว์ บอกว่า ตั้งแต่ปี 2540 เป็นปีที่ฟองสบู่แตก เศรษฐกิจตกต่ำอย่างมาก ปัญหาเกิดขึ้นมีประชาชนตกงานเป็นจำนวนมาก ก็ได้ปรึกษากับคุณอาว่าจะช่วยเหลือคนเหล่านั้นอย่างไร พอดีได้เห็นที่ดินยังว่างเปล่าอยู่มาก เป็นที่ดินของภาคเอกชนที่ซื้อทิ้งไว้ ก็เลยไปขอใช้พื้นที่ 137 ไร่ ก็เลยรับสมัครใครต้องการจะมาทำสวนกัน ใครครอบครัวใหญ่ก็แบ่งไปครอบครัว 3 ไร่ 4 ไร่ 5 ไร่ 7 ไร่ 10 ไร่ เลยแบ่งไปได้ทั้งหมด 37 ครอบครัว อบต.ปรับท้องร่องให้ ปลูกสวนให้ ระหว่างที่รอมะม่วงออกลูก ก็ทำร่องสวนเป็นที่เลี้ยงปลา และปลูกผัก

“เวลาผ่านไป 4 ปี ผมเป็นนายก อบต. ปัญหาเริ่มเกิด เพราะมะม่วงออกมาไม่มีตลาดจำหน่าย ขายถูกชาวสวนก็บ่น จริงๆ ผมก็เล็งเอาไว้แล้วว่าผมจะทำตลาดในบางน้ำผึ้ง เป็นตลาดสีเขียว เราน่าจะขายได้ ก็เลยนั่งประชุมกับชาวบ้านที่เป็นวิถีประชาคม 11 หมู่บ้านเห็นพ้องกันถ้าทำตลาดน้ำ พวกเราต้องปลูกแล้วก็ขายกันเอง เลยเริ่มสร้างตลาดน้ำบางน้ำผึ้งปี 2545 แล้วเปิดตลาดในปี 2547”

สำหรับกติกาของตลาดพ่อค้าแม่ค้าต้องเป็นผู้ค้าเอง ผมชื่นชมมากๆ แผงขายของในตลาดทาง อบต.เป็นผู้ดำเนินการ จะมีไม่มีนายทุนเข้าเป็นเจ้าของแผง ไม่มีการลงทุนแล้วเซ้งแบบที่อื่น ทำให้สินค้าหรืออาหารราคาไม่แพง มาตรการนี้ทุกคนทำผิดได้ไม่เกิน 3 ครั้ง เพราะถ้าไม่มีกฎแห่งเหล็กก็จะเรื่องทะเลาะกันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ใครทำไม่ดีก็จะมีการประจานกันที่ประชุมประชาคม ผมฟังแล้วคิดว่าน่าจะเป็นกฎที่ทำให้ตลาดแห่งนี้น่าอยู่ เพราะมีแม่ค้าต่างมีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส อีกทั้ง ในปีหน้าทาง อบต. จะออกกฎหมายห้ามสร้างหมู่บ้าน หรือรีสอร์ทในตำบลบางน้ำผึ้งเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแห่งนี้เป็นตลาดสีเขียวที่น่ายกย่องจริงๆ เนื่องจากตลาดแห่งนี้ยังปลอดภาชนะที่เป็นโฟม โดยเป็นตลาดที่สามารถรอบรับผู้สูงอายุและคนพิการ ได้ทั้งหมด เพราะพื้นตลาดมีการปรับให้0เป็นทางเรียบ ผมได้ฟังแนวคิดของ นายก อบต. แล้วรู้อยากให้ตลาดอื่นๆ นำแนวคิดแบบนี้ไปใช้น่าจะดี และนายก อบต. ยังมุ่งมั่นที่จะทำให้บางน้ำผึ้งเป็นพื้นที่ป่าที่จะช่วยลดโลกร้อน

“ตลาดบางน้ำผึ้งต่อไปจะเป็นตลาดที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ประสานกับสวนนงนุชออกแบบเรียบร้อยแล้วที่จะใส่ต้นไม้เพิ่งหลังตลาดให้เป็นแหล่งความรู้ของชาวบ้านแล้วที่ตลาดของเรามีพื้นที่ป่าแล้ว 100 ไร่ เพราะเราต้องการให้ประชาชนมาเที่ยวที่นี้แล้วมีความสุข ได้ประโยชน์ไม่ใช่แข่งขันราคาที่แพงเหมือนที่อื่นที่สำคัญผักที่นี่ก็ต้องปลอดสารพิษ” นายก อบต.กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

อีกสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างมากเนื่องจากตลาดแห่งนี้ยังมีการรักษาความสะอาดตลาดโดยแม่ค้าพ่อค้าขายของเสร็จจะต้องทำความสะอาดตลาดก่อนกลับ แล้วทาง อบต.มีที่ดักไขมันถึง 6 จุด ทำให้น้ำที่นี่สะอาดก่อนปล่อยลงแม่น้ำ ทว่าในปีนี้ชาวตลาดน้ำบางน้ำผึ้งร่วมใจกันทำงานถวายพ่อหลวงตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2553 นี้เป็นต้นไปจะทำให้ตลาดแห่งนี้ปลอดขยะ เพื่อช่วยกันลดโลกร้อน และตรงนี้ทางบางจากกำลังดำเนินการที่จะสนับสนุนถังขยะและถังใส่น้ำจุลินทรีย์ GM ให้อีกด้วย

//ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง…ปลอดถุงพลาสติก

ที่ผ่านมามีเรื่องน่าอัศจรรย์ที่จังหวัดสมุทรปราการน้ำท่วมกันอย่างทั่วหน้ากัน แต่บางน้ำผึ้งแห่งนี้น้ำไม่ท่วม เพราะพระราชดำรัสในหลวงให้พิจารณาหาวิธีการนำพลังงานน้ำที่ระบายผ่านคลองลัดโพธิ์มาใช้ประโยชน์เพิ่มเติม โดยกรมชลประทานรับดำเนินการเมื่อเดือนพฤศจิกายนของปี 2549 วันนี้คนไทยจึงได้พบกังหันน้ำผลิตไฟฟ้าติดตั้งที่ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ กลายเป็นกังหันน้ำปั่นไฟฟ้าต้นแบบ มีคนไทยเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้น ประตูระบายน้ำของกรมชลประทานที่มีอยู่ทั่วประเทศเตรียมจะนำองค์ความรู้การผลิตกังหันน้ำนี้ไปประยุกต์ใช้ เป็นการนำสายน้ำมาแก้ปัญหาพลังงานในเมืองไทย

เพื่อป้องกันน้ำท่วมอีกส่วนหนึ่ง นายก อบต.บางน้ำผึ้ง ได้รณรงค์ให้ตลาดลดการใช้ถุงพลาสติก จากกลุ่มเด็กๆที่ เป็นเครือข่ายรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก โดยใครมาซื้อสินค้าครบ 50 บาท แล้วไม่รับถุงพลาสติก ก็จะได้ส่วนลด 1 บาท ซึ่งโครงการนี้กำลังนำร่องไปบ้างแล้ว ภาพของเด็ก ที่มาร่วมรณรงค์แบบนี้ผมเห็นแล้วมันชื่นใจ เพราะจะทำให้ ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดที่ปลอดขยะ และปลอดจากถุงพลาสติก

นายกอบต.บอกว่า“ตลาดบางน้ำผึ้งแห่งนี้จะเป็นตลาดหนึ่งเดียวในโลกก็ได้ที่ปลอดจากถุงพลาสติก ปลอดขยะ เพราะขยะเปียกก็จะนำมาทำเป็นน้ำจุลินทรีย์ GM ส่วนขยะที่ไม่เปียกก็จะนำไปขายแล้วนำเงินกลับมาเป็นเงินหมุนเวียนให้กับชาวบ้าน แล้วผมได้คุยกับ นายก อบต. ยังมีแนวคิดให้ พ่อค้าแม่ค้าเพื่อให้เอาใจนักท่องเที่ยวให้เป็นเหมือนเพื่อน จนวันนี้ตลาดแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประจำประมาณ 65 %” ตลาดน้ำแห่งนี้มีร้านค้า 500 ร้านค้า สร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 140 ล้านบาทต่อปี

//รางวัลการันตี “ชุมชนคนรักษ์น้ำ”

ยามที่ทอดสายตาออกไปทุกร้านของตลาดน้ำบางน้ำผึ้งจะสะอาดมาก จึงไม่แปลกใจที่ตลาดน้ำแห่งนี้การันตีความเป็นตลาดที่เด่นด้วยกัน 2 รางวัลเกียรติยศที่ได้รับจากการประกวดอุตสาหกรรมท่องเที่ยว “รางวัลชุมชนดีเด่นทางด้านการท่องเที่ยว” และ “รางวัลชุมชนคนรักษ์น้ำ” ในโครงการเจ้าพระยาสดใส เทิดไท้องค์ราชัน ฯ ล่าสุดในปีนี้ยังได้รับรางวัล TOURISM AWARDS 2010 จากรัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อรับรองว่าตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเป็นตลาดที่ได้รับมาตรฐานสำหรับเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวที่ดี

เรียกว่าตลาดน้ำบางน้ำผึ้งสามารถอยู่รวมกับโรงกลั่นบางจากได้อย่างลงตัว โดยปัจจุบันโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ได้เปลี่ยนระบบการกลั่นจาก Simple Refinery เป็น Complex Refinery โดยมีเทคโนโลยี Hydrocracking ที่ทันสมัยล่าสุดของบริษัท UOP ซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของโรงกลั่นทั่วโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ระบบการกลั่นใหม่นี้มีการติดตั้งหน่วยแตกตัวโมเลกุลน้ำมัน (Cracking Unit) หน่วยกลั่นสูญญากาศ (Vacuum Unit) หน่วยผลิตไฮโดรเจน (Hydrogen Plant) และหน่วยสนับสนุนอื่นๆทำให้สามารถผลิตน้ำมันเบนซินและดีเซลที่มีคุณภาพสูงดีต่อสิ่งแวดล้อมในปริมาณและมูลค่าที่สูงขึ้น

และลดสัดส่วนการผลิตน้ำมันเตาที่มีราคาต่ำและมีแนวโน้มความต้องการใช้ลดลง จากร้อยละ 33 เหลือเพียงร้อยละ9ส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้และกำไรเพิ่มมากขึ้นช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเทียบเคียงกับโรงกลั่นน้ำมันชั้นนำระดับสากลโดยยังคงยึดมั่นให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมไทยและอยู่ร่วมกับชาวชุมชนบางน้ำผึ้งได้อย่างมีความสุข

//บางจาก...สร้างศูนย์คอมฯ และส่งเสริมภาษา

วันนี้ทางบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ยังเข้ามาช่วยสนับสนุนโครงการต่างๆ ของชุมชนบางน้ำผึ้งอย่างต่อเนื่อง อาทิ เปิดศูนย์คอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียน โรงเรียนบางน้ำผึ้งนอกและนำครูสอนภาษาอังกฤษมาช่วยสอนเด็กในชุมชนเพื่อให้สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวได้อย่างไม่เขินอายอนาคตอันใกล้้ตลาดน้ำแห่งนี้กำลังจะกลายเป็นตลาดน้ำอินเตอร์ก็ได้ใครจะรู้ เห็นภาพเด็กๆนั่งอยู่หน้าจอและหัดพูดภาษาอังกฤษก็ทำให้อนาคตประเทศช่างสดใสจริงๆ

เมื่อก้าวเดินไปในตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแล้ว ทุกคนจะได้พบกับสินค้าทางการเกษตรของชุมชนมากมาย อาทิ ต้นไม้นานาพันธุ์,ปลาสวยงามหลากชนิด, และผลิตผลของชาวบ้านเช่น มะพร้าวอ่อน, มะม่วงน้ำดอกไม้, กล้วยหอม,ชมพู่มะเหมี่ยว ขนมหวานพื้นเมืองฝีมือชาวบ้าน เช่น ขนมถ้วยชื่อดังของป้าประคอง รอดคลองตัน ที่ใครแล้วต้องมาชิมไม่เช่นนั้นถือว่ามาไม่ถึง

แล้วยังมีขนมจากกล้วยแขกม้าฮ่อ,ขนมตระกูลทอง,กาละแมกวน,ฝอยเงินที่ใช้ไข่ขาวต้มในน้ำเชื่อมรสหวานชุ่มคอหมี่กรอบโบราณ ฯลฯ อาหารคาว เช่น ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ไส้กรอกโบราณ ห่อหมกหมู หอยทอดในถาดขนมครก ไก่สะเต๊ะน้ำพริกต่างๆ อยากบอกว่ามาที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแล้วไม่ซื้อไม่ได้แล้ว

ก่อนกลับคุณพ่อบ้านคุณแม่บ้านอย่าลืมเลือกซื้อผักปลอดสารพิษกลับบ้านไปด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นแตงกวา,กระถิน,ผักบุ้ง,ผักหนามผักดองชนิดต่างๆที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแปรรูปพืชผักให้มีรับประทานนอกฤดูกาล

นอกจากนี้ในตลาดน้ำใกล้กรุงฯแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมสินค้าOTOPที่สร้างสรรค์จากคนในชุมชนบางน้ำผึ้งและตำบลใกล้เคียงในจังหวัดสมุทรปราการ เช่น ดอกไม้เกล็ดปลา บ้านธูปสมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากทะเลอย่างกุ้งแห้ง กะปิ หอยดอง ภาพประดิษฐ์จากรกมะพร้าว ของตกแต่งบ้าน ดอกหญ้าหลากสี, โมบายล์ ลูกตีนเป็ดรูปร่างแปลกตา ผมเชื่อว่ากว่าจะเดินครบทั้ง 500 ร้านกระเป๋าคงแฟบไปเยอะแน่ๆ

//“โฮมสเตย์บางน้ำผึ้ง” บ้านพักของคนรักธรรมชาติ

หลายคนเดินเที่ยวชมตลาดบนบกกันแล้ว สนใจจะเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนชาวสวนที่ทำการเกษตรเพื่อนำมาขายในตลาดน้ำแห่งนี้ สามารถเช่าเรือพายชมสวนและตลาดน้ำเขาก็มีบริการ พายเรือ วันนี้ผมได้ นายก อบต. มาเป็นฝีพายกิตติมศักดิ์ จนมีพ่อค้าแม่ค้าแซวขึ้นว่า พวกผมมีบุญนะเนี่ยที่ได้นายก อบต. มาพายเรือให้โดยร่องเรือไปสองฝั่งคลองจนถึงประตูน้ำที่จะออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาก็จะได้ชมบรรยากาศของบ้านเรือนในวิถีไทยๆ ถ้าจะให้ได้บรรยากาศมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากต้องการพักค้างคืน บางน้ำผึ้งแห่งนี้ยังมี “ โฮมสเตย์บางน้ำผึ้ง ” เป็นบ้านพักที่ปลูกอาศัยติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา บางหลังอยู่ติดริมคลองบางน้ำผึ้งสามารถกางเต็นท์นอนได้ มีบ้านไทยโบราณอายุกว่า 100 ปี เลือกพักตามความชอบและเหมาะสมกับนักท่องเที่ยว ราคา 500 บาทต่อหลัง หรือ 150 บาทต่อ 1 ท่าน

อย่างไรก็ตาม ร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ยามค่ำคืนก็นั่งเรือชมหิ่งห้อยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยามีพันธุ์ไม้นานาชนิดขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นโดยเฉพาะต้นทองหลาง และต้นลำพูที่มีอายุนับ 100 ปี โดยจะขึ้นอยู่บริเวณริมน้ำรวมทั้งสถาพแวดล้อมสมบูรณ์ปราศจากมลพิษส่งผลให้มีแมลงอย่างหิ่งห้อยมาอาศัยอยู่จำนวนมากช่วยเพิ่มสีสันให้ผิวน้ำยามค่ำคืนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้สวยงามมากยิ่งกว่าเดิม

องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งและประชาชนบางน้ำผึ้งที่ได้ร่วมใจปลุกวิถีชีวิตดั้งเดิมขึ้นมาใหม่น่าจะเป็นแบบอย่างให้กับชุมชนอื่นๆได้พลิกชุมชนตัวเองขึ้นมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติแบบรักโลก เพราะจะได้ช่วยกันลดโลกร้อนด้วย

ติดต่อสอบถาม

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง หมู่ 3 ตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปรา
การ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2819-6762, 0-2461-3253

และติดต่อ โฮมสเตย์บางน้ำผึ้ง ที่ได้มาตรฐานโฮมสเตย์ไทย จากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อนุวัต รอดคลองตัน โทร. 08-9119-6669 อาภรณ์ พานทอง โทร. 08-9807-2501 ปิยะพงษ์ พูนสวัสดิ์ โทร.08-4094-4967 จิรากร กลิ่นสุคนธิ์ โทร.08-6784-7028




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น