ในปัจจุบันพรรคการเมืองต่างๆเริ่มจะ “ถึงคราวเสื่อม” ไปทีละพรรค สองพรรคโดยเริ่มจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่จะถูก “ปัญญาชน” เมินเพราะที่ผ่านมามีแต่กลิ่นไม่สะอาดอีกทั้งผู้นำก็ยังด้อยปัญญาในการบริหารประเทศ ขาดภาวะผู้นำ เป็นได้เพียง “ภารโรง” เท่านั้น หากเป็นอาจารย์สอนนิสิต นักศึกษา อาจทำให้บรรดาลูกศิษย์ “โง่เหมือนควาย” เพราะสติปัญญาของผู้สอนมีเพียงหางอึ่ง ไม่น่าไปเรียนถึงเมืองนอก ปัญญาเท่านี้คนที่เรียนจบจากโรงเรียนวัดลิงขบ ก็เป็นนายกได้เหมือนกัน
พรรคการเมืองต่างๆในประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน ผมเปรียบเสมือน “พวงองุ่น” หรือ “มะเขือพวง” ซึ่งเกิดมาจากกอหรือหน่อเนื้อเชื้อไขเดียวกัน ถ้าดีก็ดีทุกเม็ด ถ้าไม่ดีก็ไม่ดีทั้งพวงนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆในประเทศไทยไม่เคยมีดีสักพรรค คนเลวย่อมผสมพันธ์กับคนชั่วได้อย่างสนิทใจ บางคนแก่จวนจะเข้าโลงแล้วยังไม่ยอมวางมือจากความเลวความชั่วที่ทำมาตลอดตั้งแต่หนุ่มยันแก่ โกงที่ดินรถไฟบ้าง ฮุบธรณีสงฆ์บ้าง ชาวบ้าน ชาวนา ชาวไร่ ยังขาดการศึกษา และยังหลงอยู่กับระบบอุปถัมย์ งานบวช งานศพ งานแต่ง ชาวบ้านบางแห่งจะดีใจมากที่มี “เหี้ย” มางานถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง คนแก่บางคนเคยด่าเคยประจานพรรคหนึ่ง อีกทั้งเคยออกมาแฉเรื่องการทุจริตเรื่องลำใยกองมหึมาแม้แต่ท้องสนามหลวงก็ยังไม่พอวาง เคยประกาศไม่เหยียบเงาไม่เผาผีกันมาแล้ว โอ้! พระเจ้า จู่ๆก็ประกาศลงโลงผสมพันธ์กันอีกครั้ง นี่แหละ “นักการเมืองไทย” ทุกคนมักจะพูดว่าทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง แต่ผมอยากบอกว่าหากพวกท่าน (นักการเมือง) รักชาติบ้านเมืองจริงๆ ก็ขอให้ท่านทุกคน “เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมือง” เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองจะได้ดีขึ้นกับเขาเสียที “เด็ดทีละเม็ด” ไม่ว่าจะเป็น “พวงองุ่น” หรือ “มะเขือพวง” เราต้อง “เด็ดทีละเม็ด” ผมหมายถึงพรรคการเมืองต่างๆที่มีอยู่เป็นพวงในขณะนี้หากเราไม่สามารถ “รูดให้เกลี้ยง” ทีเดียวได้ เราก็ต้องใช้วิธี “กำจัด” ไปทีละพรรค ทีละพรรค ไม่ให้เหลือแม้แต่ “ผู้สืบสันดาน” อีกต่อไป ซึ่งอาจต้องใช้เวลาบ้าง คนกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ สามารถลงมือทำเป็นตัวอย่างได้ แล้วค่อยๆเผยแพร่ให้กับชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา เข้าใจถึงสันดานของนักการเมือง หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฏาคมนี้ ขอให้ทุกคนพร้อมใจกันออกไป กาช่องไม่ประสงค์เลือกใคร เพื่อสั่งสอนนักการเมือง ไม่ต้องไปกลัวว่า “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ลูกไม้ตื้นๆ มุกเดิมๆ ถ้ากูเลือกมึงบ้านเมือง “ฉิบหาย” แน่ และถึงแม้ว่าพรรคฝ่ายตรงข้ามจะได้เป็นรัฐบาลผมเชื่อว่าจะมี “การจัดการ” เกิดขึ้นอย่างแน่นอนถ้าคิดจะแก้ “นิรโทษกรรม” เพื่อพา “ซุปเปอร์พ่อ” ของคนเสื้อแดงกลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุก เมินเสียเถอะ นี่คือวิธีการ “เด็ดทีละเม็ด” อย่าลืมว่าพรรคที่เป็นฝ่ายแค้นอยู่ทุกวันนี้ มีคน “จองกฐิน” อยู่ผมเลยไม่ห่วงว่าพรรคนี้จะชนะ แต่คางเหลืองสบักสะบอมแน่ๆ ถึงแม้จะชนะก็ตาม มันต้องมีเหตุ มันต้องเกิดเหตุทั้งในพรรคและนอกพรรค ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตตั้ง (ถ้ามีการเลือกตั้ง) เจ้าภาพที่จองกฐินอาจจะทอดกฐินนอกฤดูกาลเพราะเจ้าภาพจะใส่เสื้อสีเขียวเต็มท้องถนน แห่วนไปทั่วตามจุดสำคัญๆของกรุงเทพฯ บ้านเมืองจะ “หายนะ” ด้วยประการเช่นนี้แล
สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ การปฏิวัติแบบใหม่เรียกว่า “ปฏิวัติเงียบ” อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างกระทันหันโดยคาดไม่ถึง และหากจะเกิดก็อยู่ในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป หรืออาจจะเกิดขึ้นในช่วงสูญกาศทางการเมือง (ในช่วงยุบสภา) หาก พล.อ “ป.ปลา” ที่เป็นใหญ่อยู่ในขณะนี้ขึ้นมารับตำแหน่ง “นายก” บ้านเมืองดูไม่จืด พูดกันตรงๆว่าถ้าทหารเข้ามาบริหารประเทศ มันจะมีเหตุเกิดขึ้นสอง-สามเรื่อง เรื่องแรกเลยคือพรรคการเมืองต่างๆจะตกงานไปหลายปี เรื่องที่สอง จะมีประชาชนกลุ่มหนึ่งออกมาต่อต้านทั้งบนดินและใต้ดิน เรื่องที่สาม “ประเทศบรรลัย” ถ้านายพล “ป.ปลา” ขึ้นมารับตำแหน่ง “นายก” แต่ถ้าทหารหนุนให้เกิด “รัฐบาลพระราชทาน” โดยที่ “ทหารไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ” บ้านเมืองจึงจะสงบสุข ในปี พ.ศ 2554-2555 ขอให้ประชาชน “อมทุกข์” ไปพลางๆก่อนเพราะประเทศไทยยังไม่พ้นวิกฤติ โอกาสที่ประชาชนจะได้เห็นเร็วๆนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ ประการแรก บ้านเมือง “ชิปหาย” ประการที่สอง บ้านเมือง “หายนะ” ประการที่สาม บ้านเมือง “บรรลัย” เพราะต่างก็ชิงความเป็นใหญ่
ผมเตรียมพร้อมรับกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นแล้ว “อะไรมันจะเกิดก็ให้มันเกิด” ในช่วงนี้ “ดวงทหาร” จะเป็นใหญ่แต่จะใช้ถูกทางหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผมไม่เคยส่งเสริมหรือสนับสนุนให้ทหารทำการปฏิวัติ และผมไม่อยากให้ทหารมาเป็น “นายก” เพราะประเทศชาติบ้านเมืองต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถและซื่อสัตย์มาเป็น “ผู้นำ” แต่ไม่ใช่นักการเมืองที่มีอยู่ปัจจุบัน
รัฐบาลของนายอภิสิทธ์ชุดนี้ ใจเหี้ยมใจอำมหิต และใจดำมากที่ปล่อยให้นายวีระ และน.ส ราตรี ไปให้เขมรจับตัวขึ้นศาลเขมร ทั้งๆที่นายวีระและน.ส ราตรีเหยียบบนแผ่นดินไทย ไม่เคยคิดที่จะช่วยคนไทยทั้งสองเลยทั้งๆที่มีสัญญาระหว่างประเทศว่าต้องไม่จับคนไทยขึ้นศาลเขมร คุณวีระและคุณราตรีน่าสงสารมากโดยเฉพาะคุณวีระมีเรื่องร้อง ปปช. เกี่ยวกับผู้ดูแลความสั่นคลอนของประเทศที่ทุจริตคอร์รัปชั่น คุณวีระจึงถูกขังลืม นี่คือประชาชนต้องตายก่อน ประชาชนต้องติดคุกเขมรก่อน ผมใคร่ขอกราบวิงวอนให้หน่วยงานที่มีอำนาจช่วยเหลือคุณวีระ และ น.ส ราตรีด้วยเถอะครับ ชีวิตโคกระบือยังมีคนใจบุญสงเคราะห์ไถ่ชีวิต นี่เป็น “คน” นะครับ และเป็นคนดีด้วย ท่านที่มีอำนาจไม่คิดจะช่วยชีวิต “คนดี” บ้างเลยหรือครับ กรุณาเถอะคุณแม่และญาติพี่น้องของคุณวีระกำลังขอความช่วยเหลือจากท่านที่มีจิตใจเป็นมนุษย์อยู่
ผมเคยเขียนบอกแล้วว่าตราบใดที่ดวงผู้นำประเทศไม่ดีประเทศชาติก็มีปัญหาตั้งแต่มีนายกเฮงซวยมาถึงวันนี้...ประชาชน “อ่วมอรทัย” จากภัยธรรมชาติไม่เว้นวันโกน...วันพระและไม่หยุดไม่หย่อนแม้แต่วันเสาร์ – อาทิตย์...บ้านเมืองยุ่งฉิบหาย...เวลามีประชุมสภาก็ล่มแล้วล่มอีก... “เตรียมตัวต้อนรับภัยให้ดี” เพราะยังจะมีอีก...คนไทยบางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบางคนไม่มีความเห็นใจประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ...ซ้ำเติมคนทุกข์ยากลำเค็ญด้วยการขึ้นราคาข้าวปลาอาหาร...นี่หรือคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ...เมตตาธรรมไม่มีเลยสักนิด...ผมเป็นเพียงหมอดูผมยังช่วยทุกครั้งที่ประชาชนเดือดร้อน...ให้ใครเท่านั้น
ด้วยความเคารพ
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ) 7 เม.ย. 54
ป.ล. บทความนี้ผมเขียนตั้งแต่วันจันทรที่ 4 เม.ย. 54 พอวัน “เช็งเม้ง” คือวันที่ 5 เม.ย.ผมก็ได้ฟังสี่เหล่าทัพออกมาให้ข่าวยืนยันว่าไม่มีการ “ปฎิวัติ” แน่ๆก็รู้สึกดีใจ...และยิ่งดีใจมากขึ้นที่ได้ฟัง ผบ.สส.กล่าวว่าจะไม่ไปประชุมที่ประเทศอินโดนีเซีย...ทั้งยังสำทับว่าจะไม่ยอมให้ทหารอินโดนีเซียเข้ามายุ่งเกี่ยวกับประเทศไทย...ผมขอตบมือให้เหล่าทัพทั้งหลายที่แสดงจุดยืนที่หนักแน่นและมั่นคงต่อเอกราชของไทย...พร้อมกันนี้ผมขอฝาก “ตบหน้า” นายกอภิสิทธิ์ และกระทรวงบัวแก้วทุกคนมา ณ. ที่นี้ด้วย
เ้ปลี่ยนฟ้อนท์ด่วน อ่านยากมากพี่
ตอบลบแล้วคนในภาพข้างหลังนี่เสื่อมไหมครับ ทำไรเสื่อมๆ กินไฟ เฉือนลิ้น เพื่อ ??
ตอบลบถูกต้อง และถูกใจเป็นที่สุดเลยครับ ครอบครัวผมหนึ่งละครับ ที่ no vote
ตอบลบVote No เข้าคูหาใช้สิทธิ์กาช่อง "ไม่ประสงค์ลงคะแนน"(ไม่ประสงค์เลือกคนเลว)
ตอบลบ