สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ประกาศความพร้อมจัดงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 39 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 9 (Bangkok International Book Fair 2011)” ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 6 เมษายน 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “เปิดหนังสือคือเปิดโลกกว้างไม่รู้จบ Open a book : Open the world” เชิญชมนิทรรศการ “เอกกษัตริย์นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่” พร้อมเปิดตัวกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ “ปั้นดิน ปั้นใจ ให้หนังสือ” โชว์ไฮไลท์การปั้นตุ๊กตาดินเหนียวรูปกระต่ายและสัตว์นานาชนิดกำลังอ่านหนังสือ 84 แบบสุดน่ารัก และกิจกรรมต่างๆ ที่มีประโยชน์อีกมากมายอัดแน่นตลอด 13 วัน
คุณริสรวล อร่ามเจริญ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 39 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 9 ปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม – 6 เมษายนนี้ นับว่าเป็นงานที่คนรักหนังสือทุกคนรอคอย ครั้งนี้นอกจากจะมีสำนักพิมพ์ของไทยเข้าร่วมกว่า 420 แห่ง จำนวน 846 บูธแล้ว ยังมีสำนักพิมพ์จากประเทศต่างๆ ร่วมออกบูธอีก 15 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ เชค อิหร่าน จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และบรูไน”
“สมาคมฯ รู้สึกภูมิใจที่สามารถยกระดับงานสัปดาห์หนังสือของไทยให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติได้ นอกจากเป็นการประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ว่าสังคมไทยก็เป็นอีกสังคมหนึ่งที่รักการอ่าน ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักอ่านได้เปิดโลกทัศน์กับหนังสือต่างประเทศชั้นนำ สำหรับปีนี้เราจัดภายใต้แนวคิด “Open a book: Open the world หรือ เปิดหนังสือคือเปิดโลกกว้างไม่รู้จบ” หมายถึง “หนังสือ เปรียบเหมือนโลกใบเล็กที่อัดแน่นด้วยเรื่องราวมากมายที่พร้อมให้เรียนรู้ การเปิดหนังสือ เปรียบเหมือนการเปิดโลกและเรียนรู้ไปกับสิ่งต่างๆ ยิ่งเปิดอ่านมากเท่าไหร่ ก็จะเรียนรู้โลกได้กว้างขึ้น รู้ลึก รู้มากกว่าคนอื่น เพื่อพัฒนาตนเอง และที่สำคัญสามารถเปิดโลกกว้างอย่างไม่มีวันจบสิ้น เพราะหนังสือก็มีให้อ่านไม่รู้จบเช่นกัน”
“ภายในงานได้เตรียมไฮไลท์นิทรรศการและกิจกรรมไว้มากมาย อาทิ นิทรรศการ “เอกกษัตริย์นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 เป็นนิทรรศการที่เสนอภาพหาชมยากของการเสด็จฯ ออกเยี่ยมราษฎรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในทุกภูมิภาคของประเทศ ตั้งแต่ปี 2501”
หน้า 2
------------------------
“ตามด้วยกิจกรรม “ปั้นดิน ปั้นใจ ให้หนังสือ” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำกิจกรรมสไตล์ Book Art มาไว้ที่งานหนังสือ กิจกรรมนี้เป็นการเชิญชวนนักอ่านมาสร้างสรรค์งานศิลป์หลากหลายรูปแบบ เช่น การปั้นดินเหนียวรูปต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องประดับและของที่ระลึก การออกแบบลวดลายสร้อยคอดินเผาและโปสการ์ด ฯลฯ เป็นต้น โดยนักอ่านที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถบริจาคค่าอุปกรณ์เริ่มต้นเพียง 50 บาทเท่านั้น รายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายอุปกรณ์จะมอบเข้าโครงการ All for books, Books for all ครั้งที่ 4 เพื่อเป็นทุนจัดซื้อหนังสือให้แก่เยาวชนที่ขาดโอกาสอีกด้วย โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ตั้งเป้าจำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 1.4 ล้านคน และยอดเงินหมุนเวียนในงานไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท” นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ กล่าว
อาจารย์ธงชัย รักปทุม ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ปี 2553 กล่าวว่า “คนสมัยก่อนมีสุภาษิตที่หลายคนคงเคยได้ยินว่า “อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น” ที่เกี่ยวพันกับการนำดินเหนียวมาทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะปั้นเป็นข้าวของเครื่องใช้หรือของเล่น ซึ่งหากจะให้เครื่องใช้ทนทานและสวยงามก็ต้องนำไปเผาเป็นเครื่องปั้นดินเผาอย่างที่รู้จักกัน แต่ถ้าเป็นดินเหนียวอาจปั้นเพื่อเป็นของเล่นไว้เพื่อความเพลิดเพลิน ซึ่งเด็กสมัยก่อนนิยมปั้นรูปสัตว์ต่างๆ เป็นของเล่น จนกระทั่งปัจจุบันดินเหนียวหายากขึ้น จึงกลายมาเป็นดินน้ำมัน เรียกได้ว่าการปั้นดินเหนียวเป็นศิลปะที่เก่าแก่ที่มีมานานแล้ว โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน แต่หากมีทักษะการปั้นหรือชอบเรื่องศิลปะจะยิ่งง่ายขึ้น เคล็ดลับก็คือควรออกแบบก่อนว่าต้องการจะปั้นอะไร ใช้ดินมากน้อยแค่ไหน มีรายละเอียดอะไร แล้วใช้ความคิดสร้างสรรค์เข้าช่วยทั้งในขั้นตอนการปั้นและตกแต่งให้สวยงาม”
“กิจกรรมปั้นดิน ปั้นใจ ให้หนังสือ นับว่าเป็นการช่วยเผยแพร่ความรู้ผสมความบันเทิงไปยังเยาวชนและคนทั่วไป และสามารถสร้างกุศลได้ด้วยในการร่วมโครงการบริจาคเงินให้เด็ก จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยลองมาทดลองปั้นดินเหนียวซึ่งเป็นภูมิปัญญาสมัยก่อนด้วยตนเอง เพราะสามารถฝึกทักษะได้หลายอย่าง เช่น ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ ความอดทนและทำให้ใจเย็นขึ้น อีกทั้งปัจจุบันเด็กไม่รู้จักของเล่นลักษณะนี้ จึงอยากให้มาช่วยกันอนุรักษ์ศิลปะแขนงนี้ที่กำลังสูญหาย และยังได้เลือกซื้อหนังสือมากมายพร้อมส่วนลดพิเศษ เรียกว่ามางานเดียวได้คุ้มทุกเรื่องและยังได้ประสบการณ์ความรู้ใหม่ๆ กลับไปอีกด้วย”
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม นิทรรศการที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ นิทรรศการ “ห้องสมุดหนังสือใหม่ รักษ์สิ่งแวดล้อม” ที่จะรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญของการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยจัดแสดงหนังสือกว่า 2,000 ปก จาก 12 หมวด ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2553 ถึงปัจจุบัน นิทรรศการจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งการอ่านเพื่อเข้าแข่งขันคัดเลือกเป็นเมืองหนังสือโลกปี 2556 รวมทั้งพบกับกิจกรรมเปิดตัวหนังสือของสำนักพิมพ์ต่างๆ และกิจกรรมน่าสนใจอื่นๆ บนเวทีฮอลล์ เอ ได้ทุกวัน
หน้า 3
------------------------
ด้านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้จัดเตรียมอำนวยความสะดวกและบริการพิเศษให้แก่ผู้เข้าชมงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯ โดยครั้งนี้นอกจากจะมีบริการส่งหนังสือด่วน บริการให้ยืมประเป๋าล้อลาก จำหน่ายแสตมป์และสินค้ามากมายแล้ว ยังได้เพิ่มบริการระบบลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ www.thailandpost.info ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการพิมพ์จ่าหน้าอัตโนมัติให้แก่ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการดังกล่าว โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10-23 มีนาคม 2554 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center 1545 หรือดูข้อมูลทางเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th
เตรียมตัวกันให้พร้อมเพื่อรับความสุขและความสนุกกับงานใหญ่ที่รอคอย “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 39 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 9 (Bangkok International Book Fair 2011)” ซึ่งจะเริ่มขึ้นในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 6 เมษายน 2554 นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandbookfair.com
ขอขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณมรุต ทวีเพ็ชร / คุณฐาปนี นันทวิสัย / คุณศุภมาศ พูลสวัสดิ์ บริษัท ไอเดียเวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด โทร. 082-011-1168, 081-445-6238, 089-686-5070 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น