ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัด เทศน์มหาชาติ-ใส่บาตรหนังสือ ครั้งแรกในร้านหนังสือ

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัด เทศน์มหาชาติ-ใส่บาตรหนังสือ

ครั้งแรกในร้านหนังสือ

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดกิจกรรมครั้งใหญ่ฉลองครบ

รอบ 2 ปี สาขาจัตุรัสจามจุรี เชิญชวนให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญใส่บาตรหนังสือพระภิกษุนักการศึกษา เป็นครั้งที่ 4 พร้อมฟังเทศน์มหาชาติ เป็นครั้งแรกในร้านหนังสือ

เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สาขาจัตุรัสจามจุรี จัดกิจกรรม “เทศน์มหาชาติ-ใส่บาตรหนังสือ” โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธา พุทธศาสนิกชน ร่วมกันทำบุญด้วยอาหารสมองให้กับพระภิกษุนักการศึกษากว่า 90 รูป และจัดให้มีการเทศน์มหาชาติ กัณฑ์มัทรี พรรณาถึงพระคุณแม่ ในโอกาสที่เดือนสิงหาคมเป็นเดือนของวันแม่แห่งชาติ

นายทรงยศ สามกษัตริย์ ผู้จัดการศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดกิจกรรมใส่บาตรหนังสือ มาแล้ว 3 ครั้ง นับตั้งแต่เปิดศูนย์หนังสือจุฬาฯ – จัตุรัสจามจุรีอย่างเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ. 2551 ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากผู้มีจิตศรัทธา ผู้ใจบุญทั้งหลาย ร่วมกันทำบุญใส่บาตรกันมาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งพระนักการศึกษาต่างก็ได้รับประโยชน์และได้เลือกหนังสือที่ตรงตามความต้องการของท่าน

“ในโอกาสครบรอบ 2 ปีนี้ เราจึงคิดว่านอกจากการใส่บาตรหนังสือให้กับพระภิกษุนักการศึกษาแล้ว เราน่าจะใช้โอกาสนี้ได้จัดงานบุญ “เทศน์มหาชาติ” ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมประเพณีโบราณ ที่ส่วนใหญ่มักจัดขึ้นในต่างจังหวัด และคนรุ่นใหม่อาจไม่คุ้นเคย ให้ได้มีโอกาสร่วมฟังเทศน์ฟังธรรม โดยเป็นการเทศน์กัณฑ์มัทรี พรรณนาถึงพระคุณแม่ นอกจากนี้ ยังมีการอ่านบทกวี “แม่คือใคร..? โดยพระศรีญาณโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 เพื่อให้สอดคล้องกับเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนที่มีวันแม่แห่งชาตีอีกด้วย”

ทั้งนี้ การ“เทศน์มหาชาติ” จัดเป็นโบราณประเพณีอย่างหนึ่ง ซึ่งบรรพบุรุษไทยยึดถือสืบทอดและปฏิบัติสืบต่อกันมา ในปัจจุบันวัดต่าง ๆ จัดให้มีการเทศน์มหาชาติขึ้น ในเทศกาลช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน สำหรับการเทศน์มหาชาติเป็นการร่วมกันจรรโลงมรดกทางวัฒนธรรมที่สูงค่า ให้อยู่คู่กับพระพุทธศาสนา โดยน้อมรำลึกถึงเรื่องราวในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ชาติที่เป็นพระเวสสันดร พระองค์ทรงบำเพ็ญทานบารมียิ่งใหญ่คือการบริจาคทรัพย์สมบัติ พระโอรส พระธิดา และพระมเหสี ซึ่งการกระทำดังกล่าวเรียกว่า “มหาทาน” ยากที่ปุถุชนทั่วไปจะทำได้

โดยมีลักษณะเป็นการร่ายยาว หรือการเล่าเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ว่าด้วยพระบุพจริยาของ พระพุทธองค์ในอดีตชาติ เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรบรมโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญพระบารมีเป็นพระชาติสุดท้าย ก่อนจะตรัสรู้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ เวสสันดรชาดก

-2-

สำหรับการเทศน์มหาชาติที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ในครั้งนี้ เป็นการเทศน์ในกัณฑ์มัทรี โดยพระนักเทศน์ คือ พระครูวินัยธร มานพ กนตสีโล จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และพระมหา จารุวัฒนะ จากวัดบางรักใหญ่ ซึ่งกัณฑ์มัทรีนั้น กล่าวถึงพระนางมัทรีเข้าป่าหาผลไม้ แล้วเจอเหตุการณ์มหัศจรรย์ต่าง ๆ จึงเดินทางกลับอาศรม ก็เกิดพายุใหญ่ มืดครึ้มไปทั่วบริเวณ อีกทั้งยังมีสิงห์สาราสัตว์ร้าย มาขวางทางไว้ เมื่อมาถึงอาศรมได้ทราบความ ทำให้พระองค์เสียพระทัยมาก จนสลบไป หลังจากฟื้นคืนสติกลับมา พระนางก็อนุโมทนากับพระเวสสันดรด้วย และมีข้อคิดประจำกัณฑ์ คือ ลูกคือแก้วตาดวงใจของผู้เป็นพ่อแม่ "ลูกดีเป็นที่ชื่นใจของพ่อแม่ ลูกแย่พ่อแม่ช้ำใจ" รักใครเล่าจะเท่าพ่อแม่รัก ห่วงใดเล่าจะเท่าพ่อแม่ห่วง หวงใดเล่าจะเท่าพ่อแม่หวง ให้ใครเล่าจะเท่าพ่อแม่ให้ เพราะฉะนั้นพึงเป็นลูกแก้ว ลูกขวัญ ลูกกตัญญู ที่ชาวโลกชื่นชม พรหมก็สรรเสริญฯ

จากนั้น ต่อด้วยกิจกรรมใส่บาตรหนังสือ ซึ่งได้นิมนต์พระนักการศึกษามาเลือกหนังสือตามอัธยาศัย จำนวน 98 รูป จาก 6 วัด ได้แก่ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก , วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร , วัดเทพลีลา พระอารามหลวง , วัดนาคปรก , วัดยานนาวา , วัดบพิตรภิมุข

กิจกรรม “เทศน์มหาชาติ-ใส่บาตรหนังสือ” นี้ มุ่งหวังเพื่อเป็นสื่อกลางให้กับผู้มีจิตศรัทธา พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ร่วมฟังเทศน์ฟังธรรม อันจะนำไปสู่การขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใส เกิดปัญญา และไปสู่การประพฤติปฏิบัติที่ดีงามตามคำสั่งสอนของพุทธศาสนาต่อไป และการใส่บาตรหนังสือ ก็ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นการให้ความรู้ ให้อาหารสมองแก่พระภิกษุนักการศึกษา ซึ่งเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา หากพระภิกษุผู้ซึ่งเปรียบเสมือนครูผู้ชี้นำทาง ได้มีหนังสือดีตามต้องการ ที่จะช่วยเพิ่มพูนความรู้ในด้านต่างๆ มากยิ่งขึ้นแล้ว ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพราะจะได้นำกลับมาเผยแพร่คำสั่งสอนให้กับประชาชน สังคม สาธารณชน ให้สังคมไทยเป็นสังคมที่อุดมด้วยปัญญาสืบไป...

************************************************

แผนกประชาสัมพันธ์ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ

โทร. 0 2218 9893-5

โทรสาร 0 2218 9895